English around l 20 สำนวน สุภาษิต วลี ภาษาอังกฤษ “สั้นๆ ง่ายๆ ใช้ได้ทุกวัน”

สวัสดีค่ะ ขอต้อนรับผู้ฟังเข้าสู่รายการ English around You
ออกอากาศทางสถานีวิทยุกระจายเสียงมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
ด้วยระบบ เอฟ.เอ็ม. ความถี่ 89.5 เมกกะเฮิรตซ์
คลื่นเทคโนโลยีเพื่อคุณภาพชีวิตค่ะ
วันนี้พบกับดิฉันชนกนาถ จีนศรี พร้อมด้วย
ดิฉันพุทธนาถ สวัสดิ์โยธิน ทำหน้าที่ดำเนินรายการในวันนี้
รายการของเราออกอากาศในทุกวันพฤหัสบดี
และเราจะอยู่ประจำในเวลา ตีสอง ถึง ตีสองครึ่ง เป็นประจำทุกสัปดาห์
วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ 7 มีนาคม พุทธศักราช 2562
วันนี้เรามีเรื่องราวที่จะนำเสนอคุณผู้ฟังเกี่ยวกับ

20 สำนวน สุภาษิต วลี ภาษาอังกฤษ “สั้นๆ ง่ายๆ ใช้ได้ทุกวัน”
1. Out of nowhere
จะคล้ายกับเวลาที่เราพูดว่า ไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย หรือ มาแบบไม่ให้ซุมให้เสียง อะไรทำนองนี้ล่ะค่ะ
Example: He came out of nowhere and grabbed me from behind.
ตัวอย่าง: เขาอยู่ดีๆโผล่มาแล้ว และจับตัวฉันจากด้านหลัง

2. To touch base
สำนวนนี้หมายถึง พูดคุยความคืบหน้า หรือคุยกันเพื่อจะได้มีความเข้าใจตรงกัน
Example: I’ll touch base with him today to tell him about the meeting.
ตัวอย่าง: เราจะคุยงานให้เข้าใจตรงกันเรื่องการประชุมกับเขาวันนี้แหละ

3. Lend a hand
แปลตรงตัวว่า ให้ยืมมือ
สำนวนนี้จะหมายถึง การให้ความช่วยเหลือ คล้ายๆกับคำพูดของบ้านเราที่ว่า ยืนไม้ยืนมือ
Example: Could you lend me a hand with this big box? I need to move it across the room.
ตัวอย่าง: คุณพอจะช่วยเรายกกล่องใหญ่ๆกล่องหน่อยนี้ได้ไหม เราต้องย้ายมันไปอีกฝั่งของห้อง

4. Piece of cake
สำนวนนี้หมายถึง เรื่องหมูๆ, เรื่องกล้วยๆ, เรื่องง่ายๆ
ถ้าแปลตรงตัว จะได้ว่า เค้ก 1 ชั้น ค่ะ ที่ใช้วลีเป็นสำนวนแทนความหมายนี้ เพราะว่า การที่เราจะรู้สึกฟิน อิ่มอร่อยกับการทานขนมเค้ก 1 ชั้นเนี่ยมันเป็นสิ่งที่ง่ายดาย เราจะรู้สึกว่าสิ่งนั้นทำได้ไม่ยาก ทำได้ง่าย และทำได้เร็ว คล้ายๆกับคำพูดบ้านเราที่ว่า หมูๆ กล้วยๆ นั้นเองค่ะ
Example: That math test was a piece of cake!
ตัวอย่าง: ข้อสอบเลขชุดนั้นหมูๆเลย

5. The last straw

สำนวนนี้หมายถึง ขีดความอดทนสุดท้าย, เป็นสิ่งสุดท้ายที่ทำให้คนๆหนึ่งหมดความอดทน, เกินขีดจำกัดที่จะทนรับไว้ได้
จะคล้ายๆกับสำนวนไทยที่ว่า ฟางเส้นสุดท้าย ค่ะ
Example: I saw my boyfriend flirting with another girl at the party, and that was the last straw. I broke up with him.
ตัวอย่าง: เราเห็นแฟนมันไปจีบๆผู้หญิงคนอื่นที่ปาร์ตี้ และนั้นก็อะไรที่เกินขีดความอดทนของเราแล้ว เราก็เลยเลิกกะเขาเลย

6. Don’t sweat it

แปลตรงตัวได้ว่า ไม่ต้องเหงื่อตก
สำนวนนี้หมายถึง ไม่ต้องกังวล อย่ากังวล
Example: Don’t sweat it! We’ve got plenty of time to practice before our show.
ตัวอย่าง: ไม่ต้องกังวลเลย เรามีเวลาอีกเยอะที่จะซ้อมก่อนแสดง

7. Check it out
สำนวนนี้หมายถึง ไปลองดู, เช็คดู, ดูสักหน่อยซิ, ไปดูกันหน่อยมั้ย
Example: Justin Bieber just put out a new album. Check it out!
ตัวอย่าง: จัสติน บีเบอร์ เพิ่งออกอัลบั้มใหม่ ลองไปฟังดูนะ

8. Can’t stand it
สำนวนนี้หมายถึง ทนไม่ได้, รับไม่ได้
Example: I can’t stand this little puppy! It has been barking nonstop.
ตัวอย่าง: เราทนน้องหมาตัวนี้ไม่ไหวแล้ว เห่าไม่หยุดเลยเนี่ย

9. In the bag

แปลตัวตัวจะหมายถึง อยู่ในถุง
แต่วลีนี้เป็นสำนวนที่หมายถึง แน่นอน, ไม่มีข้อสงสัย ค่ะ จะคล้ายกับวลีที่ว่า อยู่ในกำมือ อะไรประมานนี้ค่ะ
Example: The game is in the bag – we’ll win easily.
ตัวอย่าง: เกมนี้อยู่ในกำมือของเราละ พวกเราชนะแน่ๆ

10. Get off track

สำนวนนี้หมายถึง การออกนอกลู่นอกทาง ค่ะ
Example: Wait, are we still talking about the same thing? I feel like we are getting off the track.
ตัวอย่าง: เดี๋ยวนะ นี้เรายังพูดถึงเรื่องเดียวกันปะ ฉันรู้สึกว่าเราจะคุยกันนอกลู่นอกทางกันละอะ

11. Let it ride
สำนวนนี้หมายถึง ปล่อยมันไป, ปล่อยให้มันเป็นไปแบบนี้แหละ
Example: Don’t bother about washing the dishes just now. Let it ride for a day or two.
ตัวอย่าง: ยังไม่ต้องไปยุ่งเรื่องการล้างจาน ปล่อยมันไปก่อน 2-3 วัน

ขอขอบคุณข้อมูลดีดีจาก http://www.talk-american.com/20-everyday-english-idioms/

เดี๋ยวเราจะให้ท่านผู้ฟังพักฟังเพลงเพราะ ๆ ต่อ จากทางสถานี แล้วกลับมาพบกับพวกเราในช่วงสุดท้ายของรายการ English around You ติดตามฟังกันให้ได้นะคะ ว่าเราจะนำสำนวนอะไรมาฝากกัน อย่าเพิ่งเปลี่ยนช่องไปไหนนะคะ
กลับมาพบกันต่อในช่วงที่ 2 ของรายการ English around You อีกแล้วนะคะ ทางคลื่น FM 89.5 mhz สถานีวิทยุมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
คลื่นเทคโนโลยีเพื่อคุณภาพชีวิตค่ะ

มาติดตามรับฟังกันต่อในเรื่องราวเกี่ยวกับ 20 สำนวน สุภาษิต วลี ภาษาอังกฤษ “สั้นๆ ง่ายๆ ใช้ได้ทุกวัน”
12. Chase your tail
ถ้าแปลตรงตัวจะได้ว่า ไล่จับหางของตัวเอง
สำนวนนี้จึงหมายถึง การเสียเวลาทำบางสิ่งบางอย่างที่ได้ผลลัพธ์น้อยมากๆ
Example: Jon’s been chasing his tail all week collecting data but the report is still not ready.
ตัวอย่าง: จอห์นเสียเวลาไล่จับหางตัวเองเก็บข้อมูลอยู่ทั้งอาทิตย์แล้วเนี่ย แต่รายงานของเขาก็ยังไม่พร้อมอยู่ดี

13. Work like a charm

ถ้าแปลตรงตัวจะได้ว่า มันได้ผลเหมือนมีอาคม หรือมีเวทมนตร์
สำนวนนี้จึงหมายถึง ทำให้เกิดผลอย่างที่ปรารถนาหรือคาดไว้
Example: I tried that makeup concealer you gave me and it worked like a charm!
ตัวอย่าง: เราลองคอนซีลเลอร์แต่งหน้าที่แกให้ฉันแหละ และแบบเวิร์คมากกกก!

14. No big deal
สำนวนนี้หมายถึง ไม่มีปัญหาอะไร, เรื่องเล็กนิดเดียว
Example: Don’t worry about helping me with my project. It’s no big deal.
ตัวอย่าง: ไม่ต้องห่วงเรื่องช่วงงานโปรเจ็คของเราหรอก มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร

15. Pull the plug
สำนวนนี้หมายถึง มีหลายความอยู่ค่ะ
1) การระงับหรือหยุดแผนการอะไรบางอย่างที่แพลนไว้แล้ว
2) ถอดเครื่องช่วยชีวิต
Example 1: Jane pulled the plug on the whole project.
ตัวอย่าง: เจนยกเลิกโครงการทั้งหมดแล้วนะ
Example 2 : Doctors pull the plug on a patient in a coma.
คุณหมอถอดเครื่องช่วยหายใจของผู้ป่วยโคม่า

16. Since day one
สำนวนนี้หมายถึง ตั้งแต่วันแรก, หรือตั้งแต่ต้น
Example: You haven’t done anything right since day one!
ตัวอย่าง: ตั้งแต่แรกละ เธอยังไม่ทำอะไรที่มันถูกต้องเลยเนี่ย

17. Take it easy
สำนวนนี้หมายถึง ปล่อยตัวตามสบาย, ใจเย็นๆ, ใจร่มๆ, ค่อยๆเป็นค่อยๆไป, ชิลๆ, พักผ่อน
Example: Mario looked really tired, so I told him to take it easy tonight.
ตัวอย่าง: เราเห็นว่ามารีโอ้ดูเหนื่อยๆ เราเลยบอกให้เค้าพักไปคืนนี้

18. Spill the beans
ถ้าแปลตรงตัวจะได้ว่า ทำถั่วหก
แต่พอถูกนำมาใช้เป็นสำนวนจะหมายถึง เปิดเผยความลับ, เปิดโปง, หลุดปาก
Example: I told mom about the plan. She forced me to spill the beans.
ตัวอย่าง: ฉันบอกแผนกับแม่ไปหมดแล้ว แม่บังคับให้ฉันพูดความลับออกมาให้หมดเลย

19. Stay on track
สำนวนนี้หมายถึง มาถูกทางแล้ว, อยู่บนเส้นทางที่ถูกต้อง
Example: I think this project is moving on the right track.
ตัวอย่าง: ฉันว่าโปรเจคนี้เดินมาถูกทางละ

20. Draw the line
จะแปลตรงตัวได้ว่า “ขีดเส้น” แต่พอถูกนำมาใช้เป็นสำนวนจะหมายถึง การกำหนดขอบเขตหรือวงเขตไว้ว่าจะทำให้หรือยอมให้ได้แค่นั้น
Example: I draw the line at 200 guests at my wedding.
ตัวอย่าง: เรากำหนดกันไว้ละว่าจะเชิญแขกไม่เกิน 200 สำหรับงานแต่งของเรา

ขอขอบคุณข้อมูลดีดีจาก http://www.talk-american.com/20-everyday-english-idioms/

วันนี้รายการของเราก็หมดเวลาลงแล้ว กลับมาพบกับรายการ English around you ได้ใหม่ในวันพฤหัสบดีหน้า ช่วงเวลา ตีสอง ถึง ตีสองครึ่ง
ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
ออกอากาศด้วยระบบ เอฟ.เอ็ม. ความถี่ 89.5 เมกกะเฮิรตซ์
คลื่นเทคโนโลยีเพื่อคุณภาพชีวิต
ดิฉันชนกนาถ จีนศรี พร้อมด้วย
ดิฉันพุทธนาถ สวัสดิ์โยธิน และทีมงานต้องขอลาไปก่อน
ขอบอบคุณสำหรับการติดตามรับฟังรายการในค่ำคืนนี้