English Around You l การใช้ I believe. กับ I do believe. ต่างกันอย่างไร

English Around You l การใช้ I believe. กับ I do believe. ต่างกันอย่างไร
– no brainer เอ๊ะ.. เค้าว่าเรารึเปล่านะ
– Tiptoe around แปลว่าอะไร?
.
โดย อ.ชนฎนาถ จินศรี
และ อ.พุทธนาถ สวัสดิ์โยธิน
.
ออกอากาศ 6 กันยายน 2566
ติดตามรับฟังได้ทาง #RmuttRadio #Englisharoundyou #ภาษาอังกฤษ #สนทนาภาษาอังกฤษ #วิทยุราชมงคลธัญบุรี #แกรมม่า #สำนวนอังกฤษ

——————————————————————————————————–
 

“การใช้ I believe. กับ I do believe. ต่างกันอย่างไร”
เรามักจะเรียนกันมาว่า do, does, did เอามาใช้ในประโยคปฏิเสธ เช่น
I do not know.
She does not like it.
They did not work. เป็นต้น
แต่เอ๊ะ! นี่เรากลับเห็นการใช้ do, does, did ในประโยคบอกเล่า ซึ่งก็ไม่ได้ผิดเลยนะคะ เพราะว่าพอใส่ do,
does, did ไปแล้วจะเหมือนกับเราพูดเน้นเพื่อให้น้ำหนักกับสิ่งที่เราพูดมากขึ้น
เดี๋ยวเราลองมาเปรียบเทียบประโยคเหล่านี้กันดูนะคะ
I believe so. ฉันเชื่ออย่างนั้น
I do believe. ฉันเชื่ออย่างนั้นจริงๆ

She likes running. หล่อนชอบวิ่ง

She does like running. หล่อนชอบวิ่งซะเหลือเกิน

They won the lottery. พวกเขาถูกล็อตเตอรี่
They did win the lottery. พวกเขาถูกล็อตเตอรี่จริงๆ นะ

Tip: สังเกตว่าเมื่อใช้ does แล้ว verb ที่ตามมาก็ไม่ต้องเติม s หรือ es อีก เพราะ does รับหน้าที่ไปเรียบร้อย
เช่นเดียวกับ did ค่ะ verb ที่ตามมาก็ไม่ต้องผันเป็นกริยาช่องที่ 2 แล้วเพราะ did รับทำหน้าที่ผันให้เรียบร้อย
คุณผู้ฟังลองนำ do, does, did ไปใช้ในประโยคบอกเล่ากันดูบ้างนะคะ

อีกหนึ่งเรื่องราวที่น่าสนใจ
“no brainer” เอ๊ะ.. เค้าว่าเรารึเปล่านะ

สมมติว่าเราคุยกันอยู่ด้วยบทสนทนาที่ว่านี้ คือ
You: Shall I apply for a job here?
Willie: That’s a no-brainer.
เราถามไปว่า “เราสมัครงานที่นี่ดีมั้ย” คำตอบกลับมาของ Willie คือ no-brainer.. ฟังแล้วแอบสะดุ้ง
หาว่าเราสมองกลวงหรือเปล่า ต้องบอกเลยนะคะว่าเค้าไม่ได้ว่าอะไรเรานะคะ
no-brainer เป็นคำที่สื่อความหมายเหมือนเราพูดแบบไทยๆ ว่า “ไม่ต้องคิดมากเลย” “ตัดสินใจกันได้ง่ายๆ
เลย” หรือ “ดีเห็น ๆ เลย” เพราะสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ดีค่ะ

เวลาเราจะเอามาใช้บ้างก็ใช้ง่าย ๆ ค่ะ คือ It’s a no-brainer. หรือ That’s a no-brainer.
สามารถพูดแบบนี้ได้เลยนะคะ

หรือถ้าเป็นประโยคก็อย่างเช่น
My decision to join the fitness club was a no-brainer.
ที่ฉันตัดสินใจไปสมัครฟิตเนสก็เป็นอะไรที่ไม่ต้องคิดมากเลย (อาจจะเพื่อลดความอ้วนหรือเพื่อสุขภาพ)

To accept a scholarship is a no-brainer. I am just waiting for one.

ฉันคงตอบรับทุนการศึกษาแบบไม่ต้องคิดมากเลย ตอนนี้ฉันก็แค่รอให้มีมาซักอัน

Tip: ดูๆ ไป no-brainer ก็เหมือนเป็นคำนามทั่ว ๆ ไปนะคะ เวลาใช้ก็เหมือนเราใช้ a pen, a house
แบบนี้ได้ง่าย ๆ เลยค่ะ ทีนี้พอได้ยินฝรั่งพูดจะได้ไม่ตกใจกันค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลดีดีจาก https://www.fabenglishonline.com/

เดี๋ยวเราจะให้ท่านผู้ฟังพักฟังเพลงเพราะ ๆ ต่อ จากทางสถานี

แล้วกลับมาพบกับพวกเราในช่วงสุดท้ายของรายการ English around You ติดตามฟังกันให้ได้นะคะ

ว่าเราจะนำสำนวนอะไรมาฝากกัน อย่าเพิ่งเปลี่ยนช่องไปไหนนะคะ

กลับมาพบกันต่อในช่วงที่ 2 ของรายการ English around You อีกแล้วนะคะ ทางคลื่น FM 89.5 MHz

สถานีวิทยุมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
คลื่นเทคโนโลยีเพื่อคุณภาพชีวิตค่ะ

Tiptoe around แปลว่าอะไร?
คำว่า tiptoe ให้ความหมายว่าย่องเบา ๆ บนปลายนิ้วเท้า ไม่ได้เดินตามปกติ
ให้นึกไปถึงการเดินแบบนักบัลเล่ต์นะคะ หากแตกคำออกมาก็จะเห็นว่า tip แปลว่า “ปลาย” toe คือ
“นิ้วเท้า” รวมๆ กันแล้วเป็นคำกริยา จึงหมายถึง “ย่องเดินบนนิ้วเท้า” นี่คือที่มาค่ะ
ส่วน tiptoe around ให้ความหมายเป็นนัยว่า เลี่ยงๆ อ้อมค้อม วนไปวนมา หรือ
เดินวนเวียนอย่างระแวดระวัง ด้วยกลัวว่าอีกฝ่ายจะไม่พอใจ ซึ่งก็ใช้ได้หลายสถานการณ์ดังตัวอย่างต่อไปนี้ค่ะ

We have to tiptoe when the baby is sleeping.
เราใช้วิธีเดินย่องๆ หากเด็กน้อยนอนหลับอยู่

He always tiptoes around the questions.
เค้าตอบเลี่ยงคำถามเป็นประจำ (ตอบไม่ตรงประเด็น)

She needs to tiptoe around a bit before entering boss’s office.
เธอต้องด้อมๆ มองๆ วนไปวนมาก่อนเข้าพบนาย

I start to tiptoe all the time and be aware of what I say.
ฉันต้องคอยระแวดระวังตลอดเวลาและระวังสิ่งที่ฉันจะพูดออกไป
Tip: สังเกตว่า tiptoe ใช้เหมือน verb ทั่วไปเลย เติม s ได้ หากเป็นอดีตก็เติม d เป็น tiptoed นะคะ
หากเติม ing ก็เป็น tiptoeing ยังคงใส่ e ไว้ค่ะ

อีกเรื่องราวที่น่าสนใจในช่วงนี้นะคะ

“น้ำตาคลอ” พูดเป็นภาษาอังกฤษอย่างไร
จะว่าไปหาคำตรง ๆ ไม่มีหละค่ะ ไม่เหมือน cry ที่มีคำเฉพาะแปลว่า “ร้องไห้” แต่ “น้ำตาคลอเบ้า”
เราพูดรวมๆ เป็นประโยคได้หลายแบบอย่างเช่น Her eyes started to fill with tears.
(ตาเค้าเริ่มจะเต็มไปด้วยน้ำ) หรือ Tears welled up in her eyes. (น้ำเอ่อขึ้นในดวงตาของหล่อน ก็คือ
น้ำตาคลอเบ้า นั่นเอง) หรือจะบอกว่า Her eyes watered. (ตาเค้ามีแต่น้ำ)
ทั้งหมดนี้แปลเหมือนกันได้ว่า “น้ำตาคลอเบ้า”่ ค่ะ เวลาใช้ก็อย่างเช่น

She is a good actor. Her eyes filled up with tears right after the director requested so.
หล่อนเป็นนักแสดงที่เก่งทีเดียว น้ำตาของหล่อนคลอเบ้าได้ทันทีหลังจากที่ผู้กำกับสั่ง

She is very sensitive. Her eyes well up in tears often.
หล่อนอ่อนไหวมากเลย น้ำตาคลอเบ้าประจำ

Tip: well up ในที่นี้เป็น verb ไม่ได้เกี่ยวกับแปลว่า “ดีขึ้น” แต่จะแปลว่า “ขึ้นมา” ใช้กับ น้ำตาที่เอ่อขึ้นมา
หรือความคิดหรือความรู้สึกที่พรั่งพรูขึ้นมานั่นเองค่ะ

อีกเรื่องราวที่น่าสนใจในช่วงนี้นะคะ

เวลาพูดว่า 1,000 นอกจาก one thousand แล้วฝรั่งพูดว่าอย่างไร
ถ้าแบบที่ได้ยินผ่านหูได้บ่อยๆ ก็จะมี 2 แบบค่ะ
1. ใช้ k แทนหลักพัน (1,000) เช่น 1,000 ก็เป็น 1k (อ่านว่า “วัน-เค”)
3,000 = 3k = three k
5,000 = 5k = five k
10,000 = 10k = ten k
45,000 = 45k = forty five k
ซึ่งก็ใช้เวลาเขียนได้นะคะ เมื่อเห็น 3k ก็จะรู้ว่า 3,000 เช่น
The expected cost for this truck is 10k.
ราคาของรถบรรทุกคันนี้คาดว่าอยู่ประมาณ 10,000.

2. ใช้คำว่า grand ก็ได้ค่ะ ซึ่งก็ใช้แทนหลักพันเหมือนกัน
3,000 = 3 grand
5,000 = 5 grand
10,000 = 10 grand
45,000 = 45 grand

ซึ่งเรามักจะใช้ grand ในภาษาพูดมากกว่าเขียนนะคะ
ทีนี้หากได้ยินฝรั่งพูดด้วย k หรือ grand เราก็จะเข้าใจตรงกันแล้วว่าเค้าหมายถึงเท่าไหร่

ขอขอบคุณข้อมูลดีดีจาก https://www.fabenglishonline.com/