.
สำหรับ “โครงการพัฒนาร้านอาหารเชฟชุมชนอาหารถิ่นไทย (Local Chef Restaurant) ในพื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันออก” เป็นความร่วมมือระหว่าง กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ DIPROM กับ มทร.ธัญบุรี ผลักดันซอฟต์พาวเวอร์อาหารไทย ตามนโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” มุ่งหวังยกระดับร้านอาหารท้องถิ่นที่มีอัตลักษณ์ โดดเด่น และสามารถแข่งขันได้ทั้งในและต่างประเทศ และการสร้างให้เกิดเครือข่ายเชฟชุมชนที่เข้มแข็ง และเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่น
.
โดย รศ. ดร.อนินท์ มีมนต์ ผู้ช่วยอธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ในฐานะ ผู้อำนวยการกิจกรรม กล่าวว่า โครงการพัฒนาร้านอาหารเชฟชุมชนอาหารถิ่นไทย (Local Chef Restaurant) ในพื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันออก มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาและยกระดับศักยภาพของร้านอาหารชุมชนและเชฟท้องถิ่น ให้สามารถนำเสนออาหาร ถิ่นไทยอย่างมืออาชีพ ด้วยมาตรฐานการบริการที่ตอบโจทย์ทั้งตลาดภายในประเทศและตลาดสากล มีเป้าหมายในการยกระดับร้านอาหารชุมชนให้สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยว เกิดการจ้างงาน และสร้างรายได้อย่างยั่งยืน และการปูพื้นฐานให้ชุมชนก้าวสู่การเป็น “1 ครอบครัว 1 ทักษะซอฟต์พาวเวอร์” หรือ One Family One Soft Power ซึ่งเป็นหัวใจของยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ
.
ผลที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการจัดกิจกรรม ได้แก่ การฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการเชฟชุมชนจำนวนไม่น้อยกว่า 120 คน จำนวนไม่น้อยกว่า 30 กลุ่ม การพัฒนาเมนูอาหารถิ่นยอดนิยมให้เกิดมูลค่าเพิ่มทั้งด้านรสชาติ รูปลักษณ์ และการสื่อสารเรื่องราว การให้คำปรึกษาเชิงลึกและการเชื่อมโยงมาตรฐานอุตสาหกรรมอาหารแก่ผู้ประกอบการ และคาดหวังว่า ร้อยละ 80 ของผู้เข้าร่วมโครงการจะมีรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ยไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 ทำให้ชุมชนเกิดความภาคภูมิใจในอัตลักษณ์อาหารของตนเอง เกิดการกระจายรายได้และการท่องเที่ยว เชิงวัฒนธรรมในระดับพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรม และเกิดการเชื่อมโยงร้านอาหารชุมชนกับสื่อออนไลน์ โดยอาศัย Food Blogger และ Influencer ที่มีผู้ติดตามมากกว่า 80,000 คน เพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้าง
.
สำหรับพื้นที่เป้าหมายของโครงการ จะครอบคลุม 22 จังหวัดในภาคกลางและภาคตะวันออก ได้แก่ กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ พระนครศรีอยุธยา สระบุรี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี นครปฐม ราชบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ฉะเชิงเทรา นครนายก ปราจีนบุรี และสระแก้ว ซึ่งล้วนมีมรดกอาหารท้องถิ่นอันทรงคุณค่าที่พร้อมจะถูกต่อยอดสู่ตลาดสากล
.
รายงานโดย อาทิตยา ปักกะทานัง