English Around You l หลักการใช้ I’m sorry … บอกให้รู้ว่าเสียใจกับสิ่งที่ทำ

English Around You l หลักการใช้ I’m sorry … บอกให้รู้ว่าเสียใจกับสิ่งที่ทำ
– หลักการใช้ Get in – Get on
-Town หมายถึง เมือง เมื่อมาอยู่ในสำนวนภาษาอังกฤษจะมีหลากหลาย
.
โดย อ.ชนฎนาถ จินศรี
และ อ.พุทธนาถ สวัสดิ์โยธิน
.
ออกอากาศ 8 มีนาคม 2566
ติดตามรับฟังได้ทาง #RmuttRadio #Englisharoundyou #ภาษาอังกฤษ #สนทนาภาษาอังกฤษ #วิทยุราชมงคลธัญบุรี #แกรมม่า #สำนวนอังกฤษ

…………………………………………………………….
หลักการใช้ I’m sorry … บอกให้รู้ว่าเสียใจกับสิ่งที่ทำ

แบบที่ 1 : I’m sorry for + noun
I’m sorry ตามด้วย for ซึ่งทำหน้าที่เป็น preposition (คำบุพบท) แล้วตามด้วยคำนาม เช่น

I’m sorry for this confusion.
(ฉันขอโทษสำหรับความสับสนนี้)

แบบที่ 2 : I’m sorry for + gerund
คล้ายกับแบบแรกคือหลังคำว่า for จะต้องเป็นคำนาม ซึ่ง gerund คือคำกริยาเติม ing เป็นกริยาไม่แท้ที่ทำหน้าที่เป็นคำนาม เช่น

I’m sorry for forgetting your birthday.
(ฉันขอโทษสำหรับการลืมวันเกิดของเธอ)

แบบที่ 3 : I’m sorry to + verb
เปลี่ยนจากการใช้ for มาเป็น to แล้วตามด้วย verb หลัง to จะเป็นคำกริยาในรูปปกติ ไม่มีการผันหรือเปลี่ยนแปลงรูปคำใด ๆ เช่น

I’m sorry to hear that.
(ฉันเสียใจที่ได้ยินแบบนั้น)

แบบที่ 4 : I’m sorry + sentence
แบบที่ 4 นี้หลังประโยค I’m sorry จะตามด้วยประโยคอีกหนึ่งประโยค ซึ่งต้องประกอบด้วยประธาน กริยา และกรรม หรืออาจจะไม่มีกรรมก็ได้ถ้าหากประโยคนั้นได้ใจความสมบูรณ์แล้ว ไม่จำเป็นต้องมีกรรมมารองรับ เช่น

I’m sorry I’m late.
(ฉันขอโทษ (ที่) ฉันมาสาย) * ประโยคนี้ไม่ต้องการกรรมมารองรับ

I’m sorry I lost your comic book.
(ฉันขอโทษ (ที่) ฉันทำหนังสือการ์ตูนของเธอหาย)
Grammar: หลักการใช้ Get in – Get on
Get in – Get out of
Get on = ขึ้น
ใช้ get on กับยานพาหนะที่มีขนาดใหญ่ ‘เมื่อขึ้นไปแล้วสามารถเดินไปมาได้’ รวมถึงสามารถยืนได้ เช่น bus, airplane, train, boat เป็นต้น นอกจากนี้ยังใช้ get on กับพาหนะที่ต้อง ‘ขี่’ เช่น bike, motorbike, horse เป็นต้น

I get on a bus to my school every morning.
(ฉันขึ้นรถโดยสารประจำทางไปที่โรงเรียนทุกเช้า)

Get off = ลง
ใช้ get off คู่กับพาหนะที่ใช้ get on ได้ จำง่าย ๆ เลยว่าถ้าพาหนะชนิดใดใช้ get on ก็ใช้ get off คู่กันได้เลย เช่น get off the bus, get off the bike, เป็นต้น

I am scared of getting on a bike.
(ฉันกลัวการนั่งรถจักรยาน)

Get in = เข้าไปใน
ใช้ get in กับพาหนะที่มีขนาดเล็ก ‘เมื่อเข้าไปแล้วไม่สามารถยืนและเดินไปเดินมา’ เนื่องจากพาหนะชนิดนั้นไม่อนุญาตให้ผู้โดยสารยืนหรือเดินไปมา เช่น car, van, small ship, helicopter, small plane เป็นต้น

When I feel bad, I like to get in a car and ride around the city.
(ตอนที่ฉันรู้สึกแย่ ฉันชอบขึ้นรถและนั่งไปรอบ ๆ เมือง)

Get out of = ออกจาก
ใช้ get out of คู่กับพาหนะที่ใช้ get in ได้ จำง่าย ๆ ว่าพาหนะชนิดใดใช้ get in ก็ใช้ get out of คู่กัน

Look! Someone is trying to get out of a van. We should help!
(ดูนั่น! มีคนกำลังพยายามจะลงจากรถตู้ เราควรไปช่วยนะ!)

เดี๋ยวเราจะให้ท่านผู้ฟังพักฟังเพลงเพราะ ๆ ต่อ จากทางสถานี แล้วกลับมาพบกับพวกเราในช่วงสุดท้ายของรายการ English around You ติดตามฟังกันให้ได้นะคะ

Town หมายถึง เมือง เมื่อมาอยู่ในสำนวนภาษาอังกฤษจะมีหลากหลาย

Out of town : ออกจากเมือง
Today I am out of town.
(วันนี้ฉันออกจากเมือง)
**บ้านที่อาศัยอยู่นั้นอยู่ในเมือง

Hometown : เมืองที่เป็นบ้านเกิด
As time goes on, my hometown will become more and more beautiful.
(เมื่อเวลาผ่านไป บ้านเกิดของฉันยิ่งสวยมากขึ้นเรื่อย ๆ)

To go to town : ทำอะไรด้วยความกระตือรือร้นด้วยความตื่นเต้น
He will go to town on his studies. He’ll definitely get an A.
(เขากระตือรือร้นในการเรียนอย่างมาก เขาจะได้เกรด A แน่นอน)

To hit the town : ออกไปทำในสิ่งที่สนุกสนาน ออกไปเที่ยว
Sand hit the town last night, so she’s tired today.
(เมื่อคืนแซนออกไปเที่ยว ดังนั้นวันนี้จึงทำให้เธอรู้สึกเหนื่อย)

To paint the town red : สนุกสุดเหวี่ยง ฉลองให้เต็มที่
When I meet my old friend, we are going paint the town red.
(เมื่อฉันเจอเพื่อนเก่า พวกเราจะไปฉลองอย่างเมามัน สุดเหวี่ยงไปเลย)

Man about town : ผู้ชายชอบเข้าสังคม
Sam was known as a man about town.
(แซมเป็นที่รู้จักในนามของคนชอบเข้าสังคม)

นึ่งวิธีที่จะช่วยให้พูดภาษาอังกฤษได้อย่างเจ้าของภาษาคือการใช้ Phrasal Verbs หรือ กริยาวลี ที่เป็นการนำคำกริยามารวมกับบุพบทจนได้คำที่ความหมายใหม่ ซึ่งมีอยู่หลายคำ เช่น คำกริยา Look ที่ไปรวมกับบุพบทต่าง ๆ ทำให้ได้วลีมาใช้พูดสื่อความหมายหลายวลีเลยทีเดียว

Look up somebody
หมายถึง ติดต่อกับใครสักคน เช่น

I hope you will look up me when you arrive in Bangkok.
(ฉันหวังว่าคุณจะติดต่อกับฉันเมื่อคุณมาถึงกรุงเทพฯ)

Look after somebody/something
กริยาวลีนี้มีความหมายเช่นเดียวกับคำว่า care ซึ่งก็คือ ดูแลใครสักคนหรือบางสิ่งบางอย่าง และทำให้ให้พวกเขามั่นใจว่าพวกเขาจะมีทุกสิ่งที่พวกเขาต้องการ เช่น

You should look after your parents as they age.
(คุณควรจะดูแลพ่อแม่ของคุณยามท่านแก่ชรา)

I’m looking for someone to look after my dog for me.
(ฉันกำลังหาใครสักคนเพื่อมาดูแลน้องหมาให้ฉัน)

Look for someone/something
กริยาวลี Look for มีความหมายเช่นเดียวกับ search นั่นก็คือ ค้นหาบางคนหรือบางสิ่งบางอย่าง เช่น

I’ve been looking for this book for a long time!
(ฉันค้นหาหนังสือนี้มานานแล้วนะเนี่ย!)

Look at someone/something
สื่อได้หลายความหมาย เช่น มีความเห็น พิจารณาไตร่ตรอง ตัดสิน หรือมองดูในลักษณะคิดพิจาณาเพื่อตัดสินใจ เช่น
The doctor is looking at his throat.
(หมอกำลังมองดู (และคิิดหาหนทางการรักษา) ลำคอของเขา)

Look into something
หมายถึง ศึกษา ค้นคว้า สืบหา เพื่อหาความจริงเกี่ยวกับบางอย่าง เช่น ปัญหา หรืออาชญากรรม เช่น

The detective looked into the murder case.
(นักสืบสืบหาความจริงในคดีฆาตรกรรม)

ขอขอบคุณข้อมูลดีดี https://www.trueplookpanya.com