English Around You l หลากหลายวิธีการใช้ keep

English Around You l หลากหลายวิธีการใช้ keep
– การใช้ Being
.
โดย อ.ชนฎนาถ จินศรี
และ อ.พุทธนาถ สวัสดิ์โยธิน
.

ออกอากาศ 19 มีนาคม2567
ติดตามรับฟังได้ทาง #RmuttRadio #Englisharoundyou #ภาษาอังกฤษ #สนทนาภาษาอังกฤษ #วิทยุราชมงคลธัญบุรี #แกรมม่า #สำนวนอังกฤษ
……………………………………….
หลากหลายวิธีการใช้ keep
Keep นอกจากจะแปลว่า “เก็บ,รักษา” แล้ว ยังแปลเป็นอย่างอื่นได้อีกด้วย ซึ่ง keep มีรูปแบบการใช้ที่หลากหลายนะคะ บางทีเคยเจอ keep ในประโยคมั้ยล่ะคะ แล้วแบบคิดไม่ออกว่าจะแปลว่าอะไรดี?? เดี๋ยวลองมาหาคำตอบกันดูค่ะ
—-keep แบบแรก แปลว่า “เก็บ,รักษา”—- ถึงจะรู้ความหมายกันอยู่แล้วแต่ก็ขอเพิ่มเติมสักหน่อย เพราะบางทีก็มีการใช้ keep กันบ่อยกับบางคำ เช่น keep a secret เก็บเป็นความลับ keep a promise รักษาสัญญา เช่น
I must keep a promise I made.
ฉันต้องรักษาสัญญาที่ให้ไว้
Can you keep a secret?
คุณเก็บความลับได้ไหม
—-keep ต่อมาคือ keep + V.ing—-keep แบบนี้มีความหมายว่า ทำสิ่ง ๆ นั้นต่อไปเรื่อย ๆ เช่น
Even if our team has lost, we will keep playing soccer.
แม้ว่าทีมเราจะแพ้ เราก็จะเล่นฟุตบอลต่อไป
** สำหรับการใช้ keep on + V.ing ก็ให้ความหมายเดียวกันนะคะ
—-keep someone doing something—- ในโครงสร้างจะหมายถึง ให้ใครบางคนทำสิ่งนั้นๆ เช่น
I’m sorry to keep you waiting so long.
ฉันขอโทษที่ปล่อยให้รอนาน
Rotate the two objects and keep them moving.
หมุนของสองสิ่งนี้แล้วปล่อยให้มันเคลื่อนไหวอยู่อย่างนั้น
—-keep + adj./adv./prep.—- keep ในความหมายนี้หมายถึง ให้คงอยู่ในสภาพนั้น ๆ ปล่อยให้เป็นอยู่อย่างนั้น เช่น
Don’t be mad! You have to keep calm.
อย่าโกรธเลยนะ คุณต้องใจเย็นๆไว้
It’s so noisy. Keep quiet!!
เสียงดังมากเลย เงียบๆกันหน่อย
ในโครงสร้างนี้เราอาจจะใส่ คนหรือสิ่งของ หลัง keep ก็ได้ เช่น
She kept her children amused for hours.
เธอปล่อยให้ลูก ๆ สนุกอยู่เป็นชั่วโมง ๆ
—-keep to something—- หมายถึง อยู่กับสิ่งนั้น ไม่หลุดออกจากสิ่งนั้น เช่น
We have wasted a lot of time. Please keep to the point.
เราเสียเวลามากกันมากแล้ว กรุณาพูดให้ตรงประเด็นด้วยค่ะ
Keep to the track! The land is very boggy around here.
อย่าออกนอกเส้นทาง ดินตรงนั้นมันเป็นโคลน
—-keep + someone—- ในความหมายนี้คือ การทำให้ใครบางคนช้า เรามักใช้ในรูปประโยคว่า
What kept you so long?
ถ้าแปลตรงตัวก็จะแปลว่า อะไรทำให้คุณหายไปนานขนาดนี้
มีหลายความหมายจริงๆค่ะ สำหรับคำว่า keep นี่ยังไม่นับรวมสำนวนที่มี keep ไปเกี่ยวข้องอีกนะคะ แต่เท่าที่อธิบายไปก็น่าจะทำให้เราเข้าใจความเป็น keep ได้มากขึ้นแล้วค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลดีดีจาก http://www.pasaangkit.com/keep/
และ Fb: ภาษาอังกฤษใช้ได้จริง
เดี๋ยวเราจะให้ท่านผู้ฟังพักฟังเพลงเพราะ ๆ ต่อ จากทางสถานี แล้วกลับมาพบกับพวกเราในช่วงสุดท้ายของรายการ English around You ติดตามฟังกันให้ได้นะคะ ว่าเราจะนำสำนวนอะไรมาฝากกัน อย่าเพิ่งเปลี่ยนช่องไปไหนนะคะ

กลับมาพบกันต่อในช่วงที่ 2 ของรายการ English around You อีกแล้วนะคะ ทางคลื่น FM 89.5 MHz สถานีวิทยุมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
คลื่นเทคโนโลยีเพื่อคุณภาพชีวิตค่ะ
การใช้ Being
การจะเข้าใจการใช้คำว่า being ต้องเข้าใจหลักไวยากรณ์อังกฤษด้วยนะคะ ถึงจะรู้ที่มาที่ไปของคำว่า being แบบหมดเปลือก ว่าแล้วก็ตามมาดูกันค่ะว่า being มีการใช้อย่างไร
being แปลงร่างมาจาก be+ing นี่แหละค่ะ คำถามต่อมาคือ แล้ว be คืออะไร??
Be ก็คือกริยารูปไม่ผันหรือรูป base form ของ verb to be (is, am, are) นั่นแหละค่ะ แล้วตอนไหนล่ะ?? ที่ be จะกลายร่างเป็น being ได้ ต้องทำความเข้าใจก่อนนะคะว่าการนำเอากริยามาบวกด้วย ing เนี่ยเราเรียกว่า gerund ค่ะ เพื่อทำให้กริยานั้นเป็นคำนาม เช่น
sleep —- sleeping การนอน
walk —– walking การเดิน
เมื่อเป็นคำนามก็สามารถเป็นประธานหรือกรรมในประโยคได้ใช่มั้ยคะ ทีนี้บังเอิญว่าเราไปเจอคำว่า being+ adjective ขึ้นต้นประโยคเป็นประธาน ในทีนี้จะแปลว่า “การ……/ความ…..” อะไรสักอย่างตามความหมายของ adjective ตัวนั้น เช่น
Being rich is nothing if you don’t have any friends.
ความรวยไม่ช่วยอะไรถ้าไม่มีเพื่อน
หรือบางครั้งเราอาจจะเจอ being + นาม/นามวลี ก็จะให้ความหมายว่า “การเป็น…..”
Being a good mother is not easy.
การเป็นแม่ที่ดีไม่ใช่เรื่องง่าย
นอกจากนี้ยังมีกรณีอื่นที่อาจจะใช้ being+adj. ได้ คือ ใช้ตามหลังบุพบทเพราะหลังบุพบทต้องเป็นคำนามค่ะ เราจะใส่ adjective คำคุณศัพท์ไปเพียว ๆ ไม่ได้ ต้องใส่ being ไปข้างหน้าเพื่อให้เป็นคำนามค่ะ เพราะกฎของ adjective คืออยู่หลัง verb to be เช่น
Thank you again for being nice with me.
ขอบคุณอีกครั้งที่ดีกับฉัน
หรือจะใช้ being ตามหลังคำกริยาที่ต้องอยู่ในรูป gerund ก็ได้ค่ะ เช่น
I’m avoiding being mad at him.
ฉันกำลังหลีกเลี่ยงไม่ให้โมโหเขาอยู่
I can’t stand being alone with him.
ฉันทนไม่ได้ที่จะอยู่ตามลำพังกับเขา
ในกรณีนี้จะใช้ being + นาม ก็ได้ค่ะ ก็ให้ความหมายว่า “การเป็น….” ได้เหมือนกัน เช่น
I’m trying to stop being a person who cares about what other people say about me.
ฉันพยายามที่จะเลิกเป็นคนประเภทที่ใส่ใจต่อคำพูดของคนอื่น
Being อาจจะตามด้วย V.3 ก็ได้ (being + V.3) ก็จะเป็นโครงสร้างของ passive voice คือถูกกระทำ เพราะโครงสร้างหลักของ passive voice คือ V.to be + V.3 แต่เมื่อมันไปอยู่ในตำแหน่งที่ต้องการให้เป็นคำนามมันจึงต้องแปลงร่างให้เป็น being ค่ะ เช่น
Being punished for doing nothing wrong is that terrible.
การโดนลงโทษในสิ่งที่เราไม่ผิดเป็นอะไรที่แย่มากๆ
น่าจะพอนำไปใช้อย่างถูกต้องกันได้บ้างนะคะ สำหรับคำว่า being ลองเอาไปใช้ดูค่ะ เพราะไม่ยากอย่างที่คิด

อีกหนึ่งเรื่องราวที่น่าสนใจ คือ สำนวน for the time being
for the time being แปลว่า ณ ตอนนี้ ณ เวลานี้ ณ ชั่วขณะนี้ ช่วงนี้ (ซึ่งเป็นเวลาชั่วคราว) …… จนกว่าจะมีอะไรที่เป็นไปได้หรือเกิดขึ้นต่อไป
เช่น
The situation is calm for the time being.
สถานการณ์ยังสงบอยู่ ณ ขณะนี้ (ต่อไปก็ไม่แน่)

Now, for the time being, she is living with her father in Phuket.
ถึงตอนนี้ เขาก็อาศัยอยู่กับพ่อของเขาไปก่่อนที่ภูเก็ต

He can stay with us for the time being until he finds a place of his own.
เขาสามารถอยู่กับพวกเราไปก่อนได้ตอนนี้ จนกว่าที่เขาจะหาที่อยู่ใหม่ได้

For the time being we two had better not meet too often.
ช่วงนี้เราสองคนไม่ควรจะเจอกันบ่อย

อย่างไรแล้วลองนำไปใช้กันดูนะคะ เพราะเป็นสำนวนที่ใช้กันค่อนข้างบ่อยค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลดีดีจาก http://www.pasaangkit.com/keep/
และ Fb: a sentence a day