English Around You l กริยาวลีภาษาอังกฤษเกี่ยวกับการทำงานธุรกิจ

English Around You l กริยาวลีภาษาอังกฤษเกี่ยวกับการทำงานธุรกิจ
– สายตาสั้นในภาษาอังกฤษเรียกว่าอะไร
.
โดย อ.ชนฎนาถ จินศรี
และ อ.พุทธนาถ สวัสดิ์โยธิน

.
ออกอากาศ 31 กรกฎาคม 2567
ติดตามรับฟังได้ทาง #RmuttRadio #Englisharoundyou #ภาษาอังกฤษ #สนทนาภาษาอังกฤษ #วิทยุราชมงคลธัญบุรี #แกรมม่า #สำนวนอังกฤษ
———————————————————————————-
กริยาวลีภาษาอังกฤษเกี่ยวกับการทำงานธุรกิจ
1. ‘Back up’         – สนับสนุนบุคคลหรือความคิดเห็น
เช่น “I’m not sure everyone will agree with me about this plan. Will you back me up in the
meeting so I have some support?”
ฉันไม่แน่ใจว่าทุกคนจะเห็นด้วยกับแผนนี้ คุณจะสนับสนุนฉันในที่ประชุมไหม ฉันจะได้มีกำลังหนุน
 
2. ‘Deal with’     – เพื่อรับมือกับสถานการณ์
เช่น “You dealt with that situation well. It’s all under control now.”
คุณรับมือสถานการณ์ได้ดีมาก ตอนนี้ทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุมแล้ว
 
3. ‘ lay off (someone)’  –เลิกจ้าง
เช่น  The company has to lay off 1,000 workers.
บริษัทต้องเลิกจ้างพนักงานจำนวน 1,000คน
 
4. ‘Cut back’   –ตัดทอน ลด

เช่น  “We don’t have much money in our budget, so we are going to have to cut back on
our spending?”
เรามีงบไม่มากนัก เพราะฉะนั้นเราจึงจำเป็นต้องลดค่าใช้จ่ายลง
 5.‘ Take off’  – พักงาน
เช่น ‘I took three days off to move house.’
ฉันพักงาน 3 วันเพื่อย้ายบ้าน
 
6.Meet up     –รวมตัวกับใครบางคนหรือกับบางกลุ่มเพื่อทำบางสิ่งบางอย่างร่วมกัน
เช่น“Let’s meet up on your day off.”
เรานัดพบกันเถอะในวันหยุดของคุณ
 
7. ‘Take over‘ – ควบคุมยึดอำนาจ
เช่น “This department has performed so much better since Paul took over. He’s a great
manager.”
ตั้งแต่พอลเข้ามาควบคุมตรงนี้ แผนกนี้ทำผลงานได้ดีขึ้นมากเลย เขาเป็นผู้จัดการที่ยอดมาก
 
8. ‘Sort out’ – หาทางออก หาวิธีแก้ปัญหา
เช่น “Thank you for sorting out the problems with my e-mail. It works perfectly now.”
ขอบคุณที่หาวิธีแก้ปัญหาเกี่ยวกับอีเมลของผม ตอนนี้สามารถใช้งานได้ตามปกติแล้ว
 
9. to call off  – ยกเลิก
เช่น Management is going to call the meeting off because so many people are out sick today.
ฝ่ายบริหารกำลังจะแจ้งยกเลิกการประชุมเนื่องจากวันนี้หลายคนลาป่วยกัน
    
          

อีกหนึ่งเรื่องราวที่น่าสนใจ
"Learn กับ study" ต่างกันยังไง
คำว่า “Learn” กับ “Study” ทั้ง 2 คำนี้แปลว่า “เรียน” อย่างที่เรารู้ๆ กัน
แต่รู้หรือเปล่าว่า การใช้งานทั้ง 2 คำนี้ มีความแตกต่างกันอยู่ค่ะ 
 Learn คือ เรียนรู้ในเรื่องทั่วๆไป เพื่อให้ได้ความรู้ หรือ skill
ต่างๆ ไม่ต้องเรียนอย่างจริงจัง แต่ไม่เกี่ยวกับการจำเพื่อไปสอบ
 Study คือ เรียนอย่างจริงจัง ท่องจำ (เพื่อไปใช้สอบ)
ตัวอย่างประโยค
– I learn a new language by talking to people or reading books.
= ฉันเรียนภาษาใหม่ๆ โดยการคุยกับผู้คนและอ่านหนังสือ?
(การเรียนภาษาแบบนี้ คือ เรียนแบบไม่ต้องไปใช้สอบ เลยใช้คำว่า learn)
– He is studying biology at university.
= เขากำลังศึกษาวิชาชีววิทยาที่มหาวิทยาลัย?
(การเรียนวิชา เพราะเป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรการเรียน ต้องใช้คำว่า study)
มีบางบทความเขียนไว้ค่อนข้างน่าสนใจถึงวิธีการใช้งานอีกแง่หนึ่งก็คือ
I studied a lot but I felt like I didn’t learn anything. ฉันเรียนมาเยอะแยะมากมาย(ท่องได้ จำได้)
แต่รู้สึกว่าไม่ได้เรียนรู้อะไรเพิ่มเลย

ขอขอบคุณข้อมูลดีดีจาก https://www.classy-english.com/

เดี๋ยวเราจะให้ท่านผู้ฟังพักฟังเพลงเพราะ ๆ ต่อ จากทางสถานี

แล้วกลับมาพบกับพวกเราในช่วงสุดท้ายของรายการ English around You ติดตามฟังกันให้ได้นะคะ

ว่าเราจะนำสำนวนอะไรมาฝากกัน อย่าเพิ่งเปลี่ยนช่องไปไหนนะคะ

กลับมาพบกันต่อในช่วงที่ 2 ของรายการ English around You อีกแล้วนะคะ ทาง FM 89.5

Innovation for life นวัตกรรมเพื่อชีวิต

สายตาสั้นในภาษาอังกฤษเรียกว่าอะไร
   คนที่มีปัญหาสายตาสั้น สายตายาว หรือสายตาเอียงเคยสงสัยกันไหมว่า
ถ้าจะไปบอกกับเพื่อนชาวต่างชาติหรือบอกกับร้านแว่นในต่างประเทศ ว่าสายตาของเราเป็นแบบไหน
ต้องบอกเค้าว่าอะไร แล้วต้องใช้คำว่าอะไรกันแน่ถึงจะถูกหลักและเข้าใจตรงกันทั้ง 2 ฝ่าย
เดี๋ยววันนี้ลองมาดูกันนะคะว่า คำศัพท์สำหรับคนที่มีปัญหาทางสายตา จะใช้คำไหนกันได้บ้าง
สายตาสั้น – short sighted / near sighted
สายตายาว – long sighted/ far sighted
สายตาปกติ – normal vision
สายตาเอียง – astigmatic
 
ตัวอย่างการใช้คำ
I’m near sighted. ฉันสายตาสั้น (หรือถ้าจะบอกว่า ฉันสายตายาว I’m far sighted)
I’m astigmatic. ฉันสายตาเอียง
I have normal vision. ฉันสายตาปกติ
My mother is long sighted, so she needs to wear glasses when she reads. แม่ของฉันสายตายาว
แม่จำเป็นต้องใส่แว่นตาขณะอ่านหนังสือ 
 

ถ้าจะถามว่าสายตาสั้นเท่าไรหรือยาวเท่าไร สามารถใช้ประโยคคำถามนี้ได้
How short sighted are you? หรือ How long sighted are you? (คำตอบต้องเป็นตัวเลข)
– Are you short or long sighted? (คุณสายตาสั้นหรือยาว)

 
ประโยคอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
ฉันอยากวัดสายตา
– I want to check my eyesight / vision.
– I want to have an eye test.

เรื่องต่อมาที่น่าสนใจ
ลาหยุด ภาษาอังกฤษพูดว่ายังไง
คำศัพท์ลาหยุดที่ทุกคนเอาไปใช้ได้ ลากันสนุกกันเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นลาหยุด ลาป่วย ลาคลอด
ลาไปเรียนหรือลาไปบวช 
take leave = ลาหยุด
sick leave = ลาป่วย
annual/vacation leave = ลาพักร้อน
private/personal leave =  ลากิจ
maternity leave = ลาคลอด
study leave = ลาไปเรียนต่อ
marriage leave = ลาไปแต่งงาน
ordination leave = ลาบวช
military service leave = ลารับราชการทหาร
family responsibility leave = การลาหยุดเพื่อดูแลครอบครัว เช่น หยุดเฝ้าไข้ลูก
งานศพสมาชิกครอบครัว
 
วิธีการพูดขออนุญาตลาหยุด

การขออนุญาตลาหยุดง่ายๆ ก็เพียงพูด May I / Can I/ Could I
แล้วตามด้วยประเภทของการลาที่อยากจะลา
เช่น Can I take annual leave next week?
 ฉันขอลาพักร้อนสัปดาห์หน้าได้มั้ย?
I have period pain. Can I take sick leave this afternoon?
 ฉันปวดประจำเดือน ขอลาป่วยตอนบ่ายได้มั้ย?
My brother broke her leg this morning. Could I take personal leave today? 
น้องชายของฉันขาหักเมื่อเช้านี้ วันนี้ฉันขอลากิจได้มั้ย?

ขอขอบคุณข้อมูลดีดีจาก https://www.classy-english.com/