ก่อนที่จะมาเป็นทรงผมที่เราคุ้นเคยกันในปัจจุบัน มาทำความรู้จักแฟชั่นทรงผมเด็กไทยในอดีตกัน วัฒนธรรมการไว้ทรงผมของเด็กไทยสมัยโบราณจะเป็นไปตามความเชื่อของผู้ใหญ่ในยุคสมัยนั้น ตามความเชื่อแล้วเชื่อกันว่าเด็กที่สุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง เจ็บไข้บ่อย ๆ จะนิยมให้ไว้ผมจุกหรือผมเปีย แล้วจะหายจากอาการป่วยนั้นได้ ซึ่งทรงผมสำหรับเด็ก มีทั้งหมด ๔ ทรง ได้แก่
1. ทรงผมแกละ พ่อแม่จะโกนผมลูกออกเหลือไว้เป็นกระจุกที่เรียกว่า “แกละ” ซึ่งเด็กบางคนอาจมีสองแกละ สามแกละ หรือสี่แกละก็ได้ไม่ได้บังคับ
2. ทรงผมจุก ทรงนี้เป็นที่นิยมของคนมีฐานะดี เพราะดูสวย น่ารัก อีกทั้งยังมีมวยให้เสียบปิ่นทอง เงิน นากหรือคล้องพวงมาลัยได้ด้วย แต่ถ้าเป็นเด็กที่มีฐานะยากจนไม่มีเครื่องประดับ พ่อแม่จะใช้ผ้ามัดหรือถักเปียแล้วค่อยทำเป็นมวยไว้ด้านบนแทน
3. ทรงผมโก๊ะ คนโกนจะเหลือผมอยู่แค่กระจุกเดียวตรงขวัญ ส่วนบริเวณอื่นจะโกนจนเกลี้ยง
4. ทรงผมเปีย เป็นทรงที่สืบเนื่องมาจากผมแกละและผมโก๊ะ เมื่อผมปอยที่เหลือเริ่มยาวมาก พ่อแม่ก็จะถักเป็นหางเปียให้เรียบร้อยแล้วปล่อยให้แกว่งไกวตามการเคลื่อนไหวของเด็กจะไม่จับไปมวยแบบทรงผมจุก
นอกจากเรื่องความเชื่อแล้วจะพบว่าประเทศไทยเป็นเมืองร้อน การให้เด็กไว้ผมยาวจะทำให้เด็กเกิดความรำคาญและดูแลรักษายาก แต่จะโกนผมออกทั้งหมดก็ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากกลางกะโหลกศีรษะเด็กซึ่งจะเรียกกันว่า “ขวัญ” นั้นยังบอบบางจำเป็นต้องมีสิ่งปกปิดป้องกันอันตราย จึงโกนเฉพาะส่วนอื่น ๆ แล้วปล่อยส่วนกลางกระหม่อมเอาไว้
ดำเนินรายการโดย
ผู้ช่วยศาสตราจารย์โสภณ สาทรสัมฤทธิ์ผล