ENGLISH AROUND YOU 24 กรกฎาคม 2562

สวัสดีค่ะ ขอต้อนรับผู้ฟังเข้าสู่รายการ English around You
ออกอากาศทางสถานีวิทยุกระจายเสียงมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
ด้วยระบบ เอฟ.เอ็ม. ความถี่ 89.5 เมกกะเฮิรตซ์
คลื่นเทคโนโลยีเพื่อคุณภาพชีวิตค่ะ
วันนี้พบกับดิฉันชนกนาถ จีนศรี พร้อมด้วย
ดิฉันพุทธนาถ สวัสดิ์โยธิน ทำหน้าที่ดำเนินรายการในวันนี้
รายการของเราออกอากาศในทุกวันพุธ
และเราจะอยู่ประจำในเวลา ตีสี่ ถึง ตีสี่ครึ่ง เป็นประจำทุกสัปดาห์
วันนี้ตรงกับวันพุธที่ 17 กรกฎาคม พุทธศักราช 2562
วันนี้เรามีเรื่องราวที่จะนำเสนอคุณผู้ฟังเกี่ยวกับ

การใช้ประโยคภาษาอังกฤษในความหมายว่า “ลองคิดดูสิ” จะพูดเป็นภาษาอังกฤษว่าอย่างไร
“ลองคิดดูสิ” ความหมายเราไม่ได้ให้ “ลอง” เพียงแต่เรา “ชวนให้คิด” ซะมากกว่าใช่ไหมคะ.. ฉะนั้นพอพูดเป็นภาษาอังกฤษเราก็สามารถพูดเหมือนเวลาเราเชิญชวนทั่วๆ ไปเลยค่ะ ก็จะลื่นกว่าเยอะเลย

ที่ใช้และได้ยินเยอะๆ ก็มีประมาณนี้ค่ะ
Let’s think about it. ลองคิดดูสิ
Why don’t you think about it? เธอลองคิดดูมั้ย

มีอีกประโยคที่กิ๊บเก๋ซึ่งฝรั่งใช้กันบ่อยๆ ก็คือ
Let’s do the math. ค่ะ
..do the math ดูเผินๆ เหมือนให้คิดเลขดู แต่อันนี้ก็แอบเป็นสำนวนเล็กๆ ที่แปลว่า “ลองคิดดูสิ” ได้เหมือนกันค่ะ

เรื่องต่อมา “อย่านะ” จะพูดแบบสุภาพ อย่างไรดี
คำว่า refrain from เป็นคำที่ดูดีเลยค่ะ หากจะเอามาใช้บ้างก็ไม่ยากค่ะ ใช้ในรูปนี้ได้เลย
refrain from + v.ing

เช่น
Please refrain from smoking.
กรุณางดสูบบุหรี่

Please refrain from taking selfie/taping VDO.
กรุณาอย่าถ่ายรูปเซลฟี่หรือถ่ายวีดีโอ

Please refrain from jumping.
กรุณาอย่ากระโดด

Please refrain from standing at the edge.
กรุณาอย่ายืนที่ขอบ

Please refrain from reading under dim light.
กรุณางดอ่านหนังสือในที่แสงน้อย

Tip: สังเกตว่า refrain from เค้าต้องตามด้วย v.ing นั่นก็เป็นเพราะ from เป็น preposition งัยจ๊ะ.. ตามหลักแล้ว verb ที่ตาม preposition. จะต้องเติม ing เสมอนั่นเองค่าาา

เรื่องที่น่าสนใจต่อมาค่ะ คำว่า “มั่ว” ภาษาอังกฤษใช้คำว่าอะไรนะ

คำที่พูดได้ลื่นๆ แบบไม่ดูเป็นทางการมากก็ใช้ว่า wing it ค่ะ คือ wing ที่แปลว่า “ปีก” นี่ล่ะค่ะ แต่เราเอามใช้เป็น verb นึกประมาณว่าเหมือนติดปีก มั่วๆ เอาตัวรอดได้อะไรอย่างงั้น ^^

ตอนใช้ไม่ยากค่ะ เช่น
I haven’t prepared for the presentation. I’ll just wing it.
ฉันไม่ได้เตรียมพรีเซ้นต์มานะเนี่ย เดี๋ยวไปมั่วเอา

I’m not ready for the quiz at all. I’ll wing it.
ฉันไม่พร้อมสอบควิซเลยอะ เข้าไปมั่วแน่ๆ

I didn’t get a chance to go to the salon before the party. I just winged it.
ฉันไม่ทันได้ไปทำผมที่ร้านก่อนไปงาน ก็เลยรวบมั่วๆ มา

I totally winged it at the interview.
ตอนสัมภาษณ์ฉันตอบมั่วเลย

Please prepare it well. Don’t wing it, ok?
เตรียมตัวมาให้ดีๆ นะ อย่าไปมั่วนะ อะเคร๊?

Tip: มองแค่ว่า wing เป็น verb ตัวนึง ซึ่งก็สามารถเติม s ได้ตามปกติหรือเติม ing, ed ก็ยังได้เลย ^^

เรื่องสุดท้ายของช่วงนี้นะคะ คำง่ายๆ คำว่า get กับ by

get by อาจไม่ใช่คำที่หลายคนคุ้น แต่อยากจะบอกว่าฝรั่งใช้เยอะค่ะ เพราะความหมายมันก็ใช้ในชีวิตประจำวันนี่หละค่ะ แปลอารมณ์ว่า “ผ่านมาได้” “หาทางออกได้” ซึ่งมักจะใช้กับแนวที่มีเงินหรือความรู้หรืออะไรก็ตามที่จำกัด แต่แล้วก็ผ่านมาได้ สามารถแก้ปัญหาเอาตัวรอดได้ อารมณ์นั้นค่ะ เช่น

Don’t worry. I will get by when I am there.
ไม่ต้องห่วงนะ เดี๋ยวอยู่นู่นผมก็หาทางเอาตัวรอดได้ครับ

I did not have time to prepare. I will get by at the presentation.
ฉันไม่มีเวลาเตรียมตัวเลย ไม่ต้องห่วงฉันสามารถพรีเซนต์ไหลได้น่า

How did she get by on small income?
เค้าใช้ชีวิตกับรายได้อันน้อยนิดนั้นได้อย่างไรนะ

Let’s make way for an ambulance to get by.
เราหลบให้รถพยาบาลมีทางขับผ่านไปได้เถอะ

พอแปลอารมณ์ออกมั้ยคะ ทีนี้ก็แปลออกแล้วเนอะว่า The countries that get by without government. ก็คือ “ประเทศที่ก็จัดการตัวเองผ่านมาได้โดยไม่มีรัฐบาล” นั่นเอง..

ไม่ได้สื่อการเมืองใดๆ นะจร๊าา

Tip: get by เป็นหนึ่งใน phrasal verb ซึ่งเป็นการใช้ verb คู่กับ preposition ที่เมื่อจับคู่แล้วเค้าก็ให้ความหมายต่างกันไป ซึ่งนี่ล่ะทำให้ phrasal verb มีทั้งความยากที่เราต้องท่องและเจอเยอะๆ นั่นเองค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลดีดีจาก https://www.fabenglishonline.com/
เดี๋ยวเราจะให้ท่านผู้ฟังพักฟังเพลงเพราะ ๆ ต่อ จากทางสถานี แล้วกลับมาพบกับพวกเราในช่วงสุดท้ายของรายการ English around You ติดตามฟังกันให้ได้นะคะ ว่าเราจะนำสำนวนอะไรมาฝากกัน อย่าเพิ่งเปลี่ยนช่องไปไหนนะคะ

กลับมาพบกันต่อในช่วงที่ 2 ของรายการ English around You อีกแล้วนะคะ ทางคลื่น FM 89.5 mhz สถานีวิทยุมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
คลื่นเทคโนโลยีเพื่อคุณภาพชีวิตค่ะ

สำนวนภาษาอังกฤษน่าใช้ “I’m so hungry I could eat a horse.”

I’m so hungry I could eat a horse.
ฉันหิวจนแทบจะกินม้าได้ทั้งตัว เป็นสำนวนที่น่าจะใช้กันได้ทุกวัน

ประโยคที่ใช้พูดเวลาหิวก็จะมีหลายแบบตามระดับตามแรงหิวค่ะ
I’m hungry.
ฉันหิว – ในอารมณ์ที่หิวยังไม่มากนัก
I’m starving.
ฉันหิวมาก – อาจจะเริ่มมือสั่นด้วยความหิว
I’m so hungry I could eat a horse.
ฉันหิวมาก – อาการนี้อาจไม่แนะนำให้เข้าใกล้ 555
ถ้าได้ยินคำนี้ How hungry are you now? ก็อาจตอบว่าฉันหิวตามระดับความแรงของความหิวได้เลยค่ะ

“อาหารตา” ภาษาอังกฤษใช้คำว่าอะไร

อืม.. นึกง่ายๆ แบบตรงๆ ตัวเราคงนึกถึงคำว่า eye food ใช่ไหมคะ แต่จริงๆ แล้ว eye food เค้าจะให้ความหมายเป็น “อาหารที่ดีสำหรับสายตา” มากกว่าจ๊ะ ซึ่งถ้า search จาก google เราจะได้คำแนะนำอาหารที่ดีสำหรับสายตาเพียบเลย

คำที่ฝรั่งใช้สำหรับ “อาหารตา” น่ารักเชียวค่ะ.. มันคือคำว่า eye candy จ๊ะ ได้อารมณ์เลยไหมคะว่าเป็น “อาหารตา” คือ “ขนมของตา” คือ “น่ามอง” อะไรประมาณนั้น

เวลาใช้ก็ง่ายๆ ค่ะ เช่น
Natasha is pure eye candy.
นาตาชาช่างเป็นคนที่น่ามองจริงๆ

Her shop is complete eye candy.
ร้านของเค้าจัดได้น่ามองมากเลย

ที่น่าสนใจคือนอกจากจะใช้ในความหมาย “อาหารตา” แบบบ้านเราแล้ว ฝรั่งเค้าก็ใช้ในหลายมุมนะคะ อาจใช้ไปในเชิง “อรรถรส” ที่จะเพิ่มให้กับนู่นนี่ให้ “น่ามอง” “น่าดู” หรือ “ดึงดูดสายตา” มากขึ้นก็ได้นะ เช่น

Let’s add a little eye candy to your slides with fun stickers.
เรามาเติมอรรถรสลงในสไลด์ด้วยสติกเกอร์สนุกๆ ดีมั้ย

Joe is funny and is eye candy in many TV shows.
โจเค้าตลกดีนะ และก็เป็นคนที่เพิ่มอรรถรสให้หลายๆ รายการเลย

I like this website. It has eye candy look.
ฉันชอบเวปไซต์นี้นะ มันดูแล้วน่ามองน่าอ่านยังงัยไม่รู้

We like to hang out at eye candy coffee shops.
พวกเราชอบไปนั่งเล่นร้านกาแฟที่แต่งเก๋ๆ น่านั่ง

large แปลว่า “ใหญ่” แต่ largely ไม่ได้หมายความว่า “อย่างใหญ่” นะ
เห็นหน้าตาอ่านไปอ่านมาก็น่าจะเดาได้ไม่ยากว่า largely น่าจะเป็น adverb ของ large แล้วก็เลยแปลในแนวว่า “อย่างใหญ่”

แต่คำนี้ทำเอาเดาผิดได้เลยค่ะ ที่ว่าเป็น adverb ก็ใช่อยู่จ๊ะ เพียงแต่ว่าความหมายเนี่ยกลับแปลในเชิงว่า “โดยหลักๆ แล้ว” หรือ “ส่วนใหญ่แล้ว” นะคะ

เช่น
The book largely talks about modern technology.
หนังสือเล่มนี้ส่วนใหญ่แล้วก็พูดถึงเทคโนโลยีสมัยใหม่

She largely spends most of her money on bags.
เค้าใช้เงินส่วนใหญ่ไปกับกระเป๋า

That large shop largely sells inexpensive stuff.
ร้านใหญ่ร้านนั้นส่วนใหญ่แล้วก็ขายของที่ไม่ค่อยแพงนักนะ

Largely people are more concerned about environment now.
โดยหลักๆ แล้ว ผู้คนก็เริ่มเป็นห่วงเป็นใยสภาพแวดล้อมมากขึ้น

New York City largely never sleeps.
มหานครนิวยอร์คจะว่าไปหลักๆ แล้วก็เป็นเมืองที่ไม่เคยหลับนะ

Tip: ด้วยความที่ largely เป็น adverb เวลาใช้ก็ง่ายค่ะ จับเค้าวางที่ไหนในประโยคก็ได้หมดค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลดีดีจาก https://www.fabenglishonline.com/

วันนี้รายการของเราก็หมดเวลาลงแล้ว กลับมาพบกับรายการ English around you ได้ใหม่ในวันพุธหน้า ช่วงเวลา ตีสี่ ถึง ตีสี่ครึ่ง
ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
ออกอากาศด้วยระบบ เอฟ.เอ็ม. ความถี่ 89.5 เมกกะเฮิรตซ์
คลื่นเทคโนโลยีเพื่อคุณภาพชีวิต
ดิฉันชนกนาถ จีนศรี พร้อมด้วย
ดิฉันพุทธนาถ สวัสดิ์โยธิน และทีมงานต้องขอลาไปก่อน
ขอขอบคุณสำหรับการติดตามรับฟังรายการในค่ำคืนนี้