English Around You l วลีการพูด “ฉันไม่รู้” แบบภาษาอังกฤษ

English Around You l วลีการพูด “ฉันไม่รู้” แบบภาษาอังกฤษ
– บุพเพสันนิวาส ภาษาอังกฤษ กับคำศัพท์ คำเด็ดเข็ดฟัน ดีงามตามท้องเรื่อง

.
โดย อ.ชนฎนาถ จินศรี
และ อ.พุทธนาถ สวัสดิ์โยธิน
.
ออกอากาศ 23 มกราคม 2567
ติดตามรับฟังได้ทาง #RmuttRadio #Englisharoundyou #ภาษาอังกฤษ #สนทนาภาษาอังกฤษ #วิทยุราชมงคลธัญบุรี #แกรมม่า #สำนวนอังกฤษ

……………………………………………………
วลีการพูด “ฉันไม่รู้” แบบภาษาอังกฤษ
คุณเคยประสบปัญหาคิดอะไรไม่ออกตอนตอบคำถามพรีเซ้นงานไหมคะ ถ้าคุณเบื่อที่จะพูด
I don’t know วันนี้ทางรายการขอเสนอวิธีการตอบว่าไม่รู้ แบบภาษาอังกฤษ
ให้คุณผู้ฟังได้เลือกใช้คำตอบกันนะคะ
เริ่มกันที่ภาษากายเพื่อบอกว่า ฉันไม่รู้ แบบภาษาอังกฤษ แบบที่ฝรั่งก็ยัง get
1    [double shoulder shrug] ยักไหล่สองข้าง ค่อนข้างภาษาสากลคนไทยก็ทำ
2    [hands outstretched, palms up] เผยมือ ปกติจะยักไหล่เล็กน้อย
3    [silence] Any other questions? คือการที่เราเงียบไปแป๊บนึง แล้วถามกลับไปว่า คุณมีคำถามอะไรอีก
ไหมคะ–คือคำถามแรกก็แบลงค์ไง 555
4    [single shoulder shrug] ยักไหล่ข้างเดียว

ต่อมาจะเป็นวิธีพูดว่า ฉันไม่รู้ เป็นประโยคภาษาอังกฤษกันนะคะ
1. I can find out for you หาให้ได้นะจ้ะ แปลว่าตอนนี้ยังไม่รู้จ้า
2. I can’t remember off the top of my head I’ll get back to you on that ประมาณแบบ
จากที่จำได้จริง ๆ เลยนะ จำไม่ได้ แล้วจะกลับมาหาคุณอีกทีในหัวข้อนั้นนะ
3. I don’t have that information here right now ผมยังไม่มีข้อมูลตอนนี้

4. I have no idea ไม่มีไอเดียเลยอะ
5. I haven’t got a clue / I haven’t a clue ไม่มีร่องรอย ไม่รู้จริงๆ
6. I haven’t got the faintest idea เป็นสำนวนแปลว่าฉันไม่รู้ แบบหาที่มาแล้วไม่เจอจริง ๆ
7. I haven’t had time to think that through yet ยังไม่มีเวลาคิดทบทวนเรื่องนั้นเลย
8. I haven’t looked at that yet ยังไม่มีเวลาดูเลยจ้า
9. I want to be sure and give you the correct information Let me check
ผมอยากจะชัวร์และให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับคุณ ให้ผมลองเช็คดูก่อนนะครับ
10. I’ll double check and let you know ผมจะเช็คมันอีกครั้งแล้วจะบอกให้คุณรู้
11. I’ll find out and let you know ผมจะหาคำตอบและบอกให้คุณรู้
12. I’ll get back to you on that one แล้วจะกลับมาหาคุณในประเด็นนั้นนะครับ
13. I’m going to investigate that further ผมจะสืบค้นต่อไป
14. I’m not 100% sure on that ไม่มั่นใจ 100% อย่างแท้จริงในเรื่องที่กล่าวมา
15. I’m not sure ฉันไม่มั่นใจนะ
16. I’m probably not the best person to ask for that information
ผมอาจจะไม่ใช่คนที่ดีที่สุดที่คุณจะถามข้อมูลนั้น
17. Let me check on that ให้ผมเช็คก่อนนะครับ
18. Let me find out for you ให้ผมหาให้คุณนะ
19. Let me look that up for you ให้ผมลองหาให้คุณนะครับ
20. That requires a bit more research first นั่นอาจต้องขอเวลาวิเคราะห์วิจัยก่อนนะคะ
21. That’s a really good question, I’ll check นั่นเป็นคำถามที่ดี ผมจะเช็คให้
22. That’s something I want you to find out for yourself!
มันก็มีบ้างในบางอย่างที่ผมอยากให้คุณหาคำตอบด้วยตัวของคุณเอง
23. That’s a really good question นั่นเป็นคำถามที่ดี (ใช่ซิ คือฉันตอบไม่ได้)
24. What do you suggest? แล้วคุณแนะนำว่าไงละ (ตอบคำถามด้วยคำถาม)

25. What do YOU think? แล้วคุณคิดว่าไงละ
26. Who knows? (คำถามเชิงสำนวนเปรียบเทียบ) แล้วใครจะรู้ละ
27. You know, there are some questions that we haven’t been able to answer
คุณก็รู้นี่ครับ ว่ามีบางคำถามที่เรายังไม่สามารถให้คำตอบได้
28. Your guess is as good as mine ก็เดาพอๆกันนะแหละ
29. dunno ไม่รู้
30. google it ใช้เวลาเราก็ไม่รู้คำตอบ เช่น “I dunno………Google It” ฉันก็ไม่รู้
ลองหาในกูเกิลก่อนไหม

ขอขอบคุณข้อมูลดีดีจาก https://engfinity.co.th/

เดี๋ยวเราจะให้ท่านผู้ฟังพักฟังเพลงเพราะ ๆ ต่อ จากทางสถานี

แล้วกลับมาพบกับพวกเราในช่วงสุดท้ายของรายการ English around You ติดตามฟังกันให้ได้นะคะ

ว่าเราจะนำสำนวนอะไรมาฝากกัน อย่าเพิ่งเปลี่ยนช่องไปไหนนะคะ

กลับมาพบกันต่อในช่วงที่ 2 ของรายการ English around You อีกแล้วนะคะ ทางคลื่น FM 89.5 MHz

สถานีวิทยุมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
คลื่นเทคโนโลยีเพื่อคุณภาพชีวิตค่ะ

บุพเพสันนิวาส ภาษาอังกฤษ กับคำศัพท์ คำเด็ดเข็ดฟัน ดีงามตามท้องเรื่อง
1.บุพเพสันนิวาส/เนื้อคู่
บุพเพสันนิวาส แปลว่า การเคยเป็นเนื้อคู่กัน, การเคยอยู่ร่วมกันในชาติก่อน
พระพุทธเจ้าทรงสอนว่าคนที่เคยมีบุพเพสันนิวาสกัน เมื่อมาพบกันเข้าในชาตินี้ย่อมจะรักกัน
(และอาจได้เป็นสามีภรรยากันอีก) หรือ การเคยเป็นพ่อ แม่ หรือลูกกันมาก่อน

“บุพเพสันนิวาส” ภาษาอังกฤษเรียกว่า? Love destiny
ในขณะที่คำว่าพรหมลิขิตเรียกว่า destiny
Do you believe in destiny? คุณเชื่อในพรหมลิขิตมั้ย
It’s your destiny and you can’t fight it.
มันเป็นพรหมลิขิตและคุณไม่อาจที่จะต่อต้านมัน
อย่างบางครั้งเราเจอใครแล้วถูกชะตามากๆ หรือเจอแล้วรักเลย หรือรักแรกพบเนี่ยเค้าเรียก Love at first
sight หมายถึง รักแรกพบ ทางศาสนาเค้าเชื่อว่ามีความสัมพันธ์กันมาในอดีตชาติ
หรือถ้าเกิดมาเป็นคู่กันเค้าเรียก Soul mate / Soul-mate / Soulmate = เนื้อคู่ ภาษาอังกฤษ
ถึงอยู่คนละภพคนละชาติ ยังไงก็ต้องมาเจอกันใช่มั้ยคะคุณผู้ฟัง

2. ออเจ้า
ศัพท์สุดฮิตจากเรื่องนี้เห็นจะไม่พ้นคำนี้
ออเจ้า หมายถึง เจ้าหรือเธอ เพียงแต่เอาไว้เรียกคนที่อายุน้อยกว่า อาวุโสน้อยกว่า
เป็นคำสมัยสมเด็จพระนารายณ์ มีบอกไว้อยู่ในจดหมายเหตุลาบูแบร์
แต่อย่างหนึ่งที่เห็นได้ชัดระหว่างไทยเทศคือวัฒนธรรมการนับญาติ อย่างคนไทย เจอกันก็เป็นญาติกันละ
เพราะเราเน้นความอ่อนน้อมตามวัฒนธรรมตะวันออก เน้นพึ่งพากันและกัน
ผู้หญิงจะเรียกว่า พี่ เจ๊ ป้า น้า ยาย
ผู้ชายจะเรียกว่า พี่ เฮีย ลุง น้า ตา
แต่พอผู้ชายจะจีบผู้หญิง จะเรียกผู้หญิงที่เขาจะจีบว่า น้อง เสียงหวานเชียว
ส่วนผู้หญิงอยากจีบผู้ชายจะเรียกผู้ชายว่า พี่ คุณพี่ เรียกแทนตัวเองว่า น้องทำเสียงแบ้วๆ ไป เรียกว่าเสียงสอง
ผู้หญิงจะเรียกผู้ชายสูงวัยกว่ามากๆว่า เฮีย น้า อา ป๋า
ส่วนตัวคนเรียกจะแทนตัวเองให้ดูเด็กน่ารักคือ หนู บางคนหน้าแก่กว่าคนถูกเรียก ยังเรียกตังเองว่าหนูอย่างนั้น
หนูอย่างนี้ ดูๆไปก็เป็นภาษาที่น่าเอ็นดูดี
ฝรั่งเนี่ยถ้าเขาไม่สนิทกันจริงๆก็ไม่เรียกนะคะ ว่าเป็นพี่เป็นน้องกัน เพราะเค้าเน้นความเท่าเทียม
“Bro”, “Sis”
Bro (โบร) ย่อมาจาก Brother
ส่วน Sis (ซิส) คือ Sister
ใช้เรียกคนที่สนิทกันมากเหมือนพี่น้องกัน Bro(ชาย) Sis(หญิง)

Hey Sis. What are you doing?
What are you up to, bro?
“Yo bro” / (What) Sup Bro
คือคนฝรั่งเนี่ย เค้าจะฝึกให้พึ่งตนเอง และความเท่าเทียมจริงๆ
ดังนั้นจึงดูเหมือนเค้าไม่ได้เรียกใครเป็นพี่เป็นน้องง่ายๆ แต่ถ้าเค้าสนิทกับใคร เค้าก็ใจใจเลย

3. ไปเวจ
เวจ หรือส้วมหลุม เป็นส้วมสมัยโบราณแบบง่ายๆ สมัยกรุงศรีอยุธยา ลักษณะเป็นส้วมหลุมนั่งยองๆ
มีไม้หรือหินพาดรอง มักใช้กันเฉพาะคนในสังคมชั้นสูง
ส้วม คำแรกที่เราคุ้นเคยกันดีก็คือ “toilet” ซึ่งเป็นศัพท์ British English
แต่ถ้าไปใช้ในอเมริกาจะเป็นคำที่ถือว่าไม่ค่อยสุภาพ คนอเมริกันจึงมักใช้คำว่า “restroom” ซึ่งก็ตรงกับ
“ห้องสุขา” หรือ “ห้องน้ำ” นั่นเอง
แต่ถ้าจะใช้คำที่แปลว่าส้วมโบราณๆ อย่างส้วมหลุม อาจจะประมาณ Privy
Does this campground have a privy?
แปลว่า ที่ตั้งแคมป์นี้มีห้องสุขาไหม?
ส่วนส้วมอื่นๆที่น่ารู้คือ
Bathroom เป็นคำที่ชาวอเมริกันใช้ที่หมายถึงห้องน้ำ
WC ย่อมาจาก Water closet ไม่ค่อยใช้กัน แต่อาจจะเห็นตามสถานที่ต่างๆ
Lavatory คือห้องที่มีทั้งส้วมและอ่างล้างมืออยู่ เช่นห้องน้ำบนเครื่องบิน
Powder room ห้องน้ำหญิง มักจะเห็นบนป้ายตามโรงแรมหรูๆ
John หรือ Can เป็นสแลงที่ชาวอเมริกันใช้ แปลว่าส้วม
ที่ใช้คำนี้เพราะคนที่คิดห้องน้ำเป็นคนแรกในอังกฤษชื่อ นายจอห์น
Loo เป็นสแลงที่ชาวอังกฤษใช้ แปลว่าส้วม
Potty – คือโถเด็กปลดทุกข์
I need to use the bathroom. อันนี้คือแบบสุภาพ แต่ถ้าแบบได้อารมณ์ต้องประมาณ
“I’m going number 1” กับ “I’m going number 2” เบอร์ 1 คือไปถ่ายเบา เบอร์ 2 คือไปถ่ายหนัก
ถ้าพูดกับคนกันเอง สนิทกัน ก็ “I need to pee” ฉันปวดปัสสาวะ
หรือ “I am gonna go poo(p)” แปลว่าจะไปถ่ายหนัก

4. โดนเอ็ด
โดนเอ็ด หมายถึง โดนว่า โดนตำหนิ
Her father scolded her for upsetting her mother.
พ่อของหล่อนด่าหล่อนเรื่องที่ทำให้แม่ผิดหวัง
“To chew out” [ด่าแบบไม่ยั้ง, ด่าเสียๆ หายๆ, ด่าหนักจริงอะไรจริง] I just got chewed out by my wife!
ฉันเพิ่งโดนแฟนด่า
My mum just chewed me out!
แม่เพิ่งด่าผม

ขอขอบคุณข้อมูลดีดีจาก https://engfinity.co.th/