English Around You l Phrasal Verb กริยาวลี

English Around You l Phrasal Verb กริยาวลี
– วิธีพูดเรื่องอนาคตในภาษาอังกฤษ
.
โดย อ.ชนฎนาถ จินศรี
และ อ.พุทธนาถ สวัสดิ์โยธิน

.
ออกอากาศ 26 มิถุนายน 2567
ติดตามรับฟังได้ทาง #RmuttRadio #Englisharoundyou #ภาษาอังกฤษ #สนทนาภาษาอังกฤษ #วิทยุราชมงคลธัญบุรี #แกรมม่า #สำนวนอังกฤษ
—————————————————————————————-
Phrasal Verb = กริยาวลี เกิดจากการนำ Verb + Adverb/ Preposition เกิดเป็นวลีที่มีความหมายใหม่ 
 Phrasal Verb ประกอบด้วย 3 โครงสร้าง 
 
1) Verb + Adverb 
เช่น
I get up at 6.00 AM. everyday. 
ฉัน ตื่นนอน ตอน 6 โมงเช้าทุกวัน
 
Please come in.
เชิญ เข้ามา
 
2) Verb + Preposition
เช่น
You don’t have to take off your shoes in my house.
คุณไม่จำเป็นต้อง ถอด รองเท้าในบ้านของฉัน 
 
 
3) Verb + Preposition + Preposition
เช่น
I will catch up with you soon.
ฉันจะ ติดต่อ หาคุณเร็ว ๆ นี้

Phrasal Verb ที่ห้ามแปลตรงตัว
1) Break in  ขัดจังหวะ
เช่น
Don't break in when he is telling the story.
อย่าขัดจังหวะขณะที่เขาเล่าเรื่อง
 
2) Cut in  ขัดจังหวะ, หยุดการทำงาน, ปาดหน้า, แทรกเข้ามา
เช่น
Don't cut in line.
อย่าแทรงคิว
 
He cut in on our conversation.
เขาขัดจังหวะบทสนทนาของเรา
 
3) Come down with (something)  ป่วยเป็นโรค
เช่น
He had come down with the flu.
เขาป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่
 
 
4) Go over  ทบทวน, ดูผ่าน ๆ
เช่น
I'm not sure that I understand. Go over it again.
ฉันไม่แน่ใจว่าตัวเองเข้าใจ ทบทวนอีกสักรอบนะ
 
5) Go with  เข้ากันได้ดี (กับเสื้อผ้า)

เช่น
Does this skirt go with my jumper?       
กระโปรงตัวนี้เข้ากันกับเสื้อไหมพรมของฉันไหม  
 
6) Look up to  ยกย่อง, ชื่นชม
เช่น
I need a boss I can look up to.
ฉันต้องการหัวหน้าที่น่านับถือ
 
7) Pass out  แจกจ่าย, สลบ
เช่น
Would you pass out the books for me?
คุณช่วยแจกหนังสือให้ฉันหน่อยได้ไหม
 
8) Pull over  จอดรถ
เช่น
Just pull over here, and I'll get out and walk the rest of the way.
จอดตรงนี้ก็ได้ เดี๋ยวฉันลงเดินไปเอง
 
9) Put up with  อดทนกับ
เช่น
I can't put up with it any longer.
ฉันไม่สามารถอดทนกับเรื่องนี้ได้อีกต่อไปแล้ว
 
10) Run across  บังเอิญเจอ
เช่น
When did you run across him?
คุณบังเอิญเจอเขาเมื่อไหร่
 
11) Run out of  หมด
เช่น

I have run out of patience with her.
ฉันหมดความอดทนกับเขาแล้วนะ
 
12) Show up  ปรากฎตัว
เช่น
There's no telling who is going to show up tonight.
ไม่มีอะไรบอกได้เลยว่าใครจะมาปรากฎตัวคืนนี้บ้าง
 
13) Stick up for  ยืนหยัด, ต่อสู้
เช่น
She's always known how to stick up for herself.
เธอรู้วิธียืนหยัดเพื่อตัวเองเสมอ
 
14) Stand for  ย่อมาจาก, อดทนต่อ
เช่น
What does the EU stand for?
EU ย่อมาจากอะไร
 
 
15) Try out ทดลอง
เช่น
He got to try out all the new software.
เขาต้องทดลองซอฟต์แวร์ใหม่ทุกตัว
 
16) Take place  เกิดขึ้น
เช่น
Elections take place every year.
การเลือกตั้งเกิดขึ้นทุกปี
 
17) Get along with  เข้ากันได้
เช่น

I hope I will get along with everyone.
ฉันหวังว่าฉันจะเข้ากับทุกคนได้
 
18) Get over  ยอมรับความจริง
เช่น
I can't get over losing you.
ฉันไม่สามารถยอมรับที่ต้องเสียคุณไปได้
 

เดี๋ยวเราจะให้ท่านผู้ฟังพักฟังเพลงเพราะ ๆ ต่อ จากทางสถานี
แล้วกลับมาพบกับพวกเราในช่วงสุดท้ายของรายการ English around You ติดตามฟังกันให้ได้นะคะ
—————————————
กลับมาพบกันต่อในช่วงที่ 2 ของรายการ English around You อีกแล้วนะคะ ทางคลื่น FM 89.5 MHz
สถานีวิทยุมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี คลื่นเทคโนโลยีเพื่อคุณภาพชีวิตค่ะ

วิธีพูดเรื่องอนาคตในภาษาอังกฤษ
ภาษาอังกฤษเมื่อจะพูดถึงเรื่องอนาคต มีถึง 4 วิธีพูดเรื่องอนาคตในภาษาอังกฤษ ดังนี้
วิธีที่ 1: Future Simple (S + will + V.inf.)  
V.Infinitive คือ คำกริยาเดิม ที่อยู่ในรูปปกติ ไม่ต้องเติมคำใดๆต่อท้ายทั้งสิ้น
– ใช้พูดถึงอนาคตที่จะเกิดขึ้น 50%
– ใช้พูดถึงสิ่งที่จะทำทั่ว ๆ ไป ไม่ลงรายละเอียดลึก
– ใช้พูดถึงความตั้งใจที่จะทำในทันทีไม่ได้วางแผนมาก่อน เช่น มีคนเคาะประตู แล้วเราพูดขึ้นว่า
I will open the door. ฉันจะเปิดประตู ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่จะทำทันทีเดี๋ยวนั้น
วิธีที่ 2: S + is/am/are + going to + V.inf.
– ใช้พูดถึงอนาคตที่มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้น 70% – 80%
– ใช้พูดถึงเรื่องที่มีเค้าลางว่าจะเกิดขึ้น เช่น เมื่อเห็นฟ้ามืดครึ้มมีเค้าว่าฝนจะตก จึงพูดว่า It’s going to rain.
(ฝนกำลังจะตก)
Ex. I’m going to study English next month.
(ฉันจะเรียนภาษาอังกฤษเดือนหน้า)

วิธีที่ 3: Present Continuous (S + is/am/are + V.ing)
– ใช้พูดถึงอนาคตที่มีความเป็นไปได้ว่าจะเกิดขึ้น 85%
– ใช้พูดถึงเรื่องที่วางแผนไว้แล้ว

Ex. I’m visiting Phuket next month.
(ฉันจะไปภูเก็ตเดือนหน้า) นั่นหมายความว่าวางแผนและซื้อตั๋วไว้เรียบร้อยแล้ว
Ex. I’m shopping with Jane this weekend.
(ฉันจะไปชอปปิ้งกับเจนสุดสัปดาห์นี้) วางแผนไว้ล่วงหน้าว่าจะไป
อย่างไรก็ตามแม้จะวางแผนไว้แล้วแต่ไม่ได้หมายความว่าเกิดขึ้น 100%
เนื่องจากอาจมีการผิดแผนได้หรือยกเลิกได้

วิธีที่ 4: Present Simple (S + V.1 (s/es))
 ใช้พูดถึงเรื่องที่จะเกิดขึ้นแน่ ๆ 100% มันเป็นพวกตารางเวลา (Time Table/Schedule)
Ex. The last train leaves at 10 pm today.
(วันนี้รถไฟเที่ยวสุดท้ายออกตอนสี่ทุ่ม)
Ex. The restaurant opens at 5 pm.
(ร้านอาหารเปิดตอนห้าโมงเย็น)
 สำนวน IN NO TIME  = อีกไม่นาน แป๊บเดียว

We will be back in business in no time.
เราจะกลับมาในธุรกิจในอีกไม่ช้า
I will be there in no time.
ฉันจะไปถึงอีกแป๊ปเดียว
They will be leaving home in no time.
พวกเขาจะออกจากบ้านเร็วๆนี้
Idiom/Phrase: สำนวนภาษาอังกฤษจากคำที่เกี่ยวกับธรรมชาติ
in the air หมายถึง ทุกหนทุกแห่ง

ex. There was a festive feeling in the air.
(ความรู้สึกสนุกสนานมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง)
a drop in the ocean หมายถึง สิ่งเล็กน้อย, เรื่องขี้ปะติ๋ว
ex. We ourselves feel that what we are doing is just a drop in the ocean.
(พวกเรารู้สึกว่าพวกเราแค่ทำสิ่งเล็กน้อยเท่านั้น)
out of the woods หมายถึง ผ่านจุดวิกฤตไปแล้ว
ex. He may not be entirely out of the woods yet.
(เขาอาจจะยังไม่ผ่านจุดวิกฤต)
down to earth หมายถึง กลับสู่โลกแห่งความเป็นจริง, ติดดิน
ex. He is very down to earth.
(เขาเป็นคนติดดินมาก ๆ)

ขอขอบคุณข้อมูลดีดี https://www.trueplookpanya.com
https://www.shorteng.com https://www.globish.co.th