มทร.ธัญบุรี MOU กับบริษัท ถิรไทย จำกัด (มหาชน) วิจัยหม้อแปลงไฟฟ้าแรงดันสูง โครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ ระบบกักเก็บพลังงาน และการพัฒนาฉนวนน้ำมันหม้อแปลงไฟฟ้าฐานชีวภาพ

วันที่ 13 พฤศจิกายน 2568 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี โดย รศ.ดร.สมหมาย ผิวสอาด อธิการบดี ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการและวิจัยทางด้านหม้อแปลงไฟฟ้าแรงดันสูง โครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ ระบบกักเก็บพลังงานและการพัฒนาฉนวนน้ำมัน หม้อแปลงไฟฟ้าฐานชีวภาพ กับ บริษัท ถิรไทย จำกัด (มหาชน) โดย คุณสัมพันธ์ วงษ์ปาน ประธานกรรมการบริหาร โดยมี รศ.ดร.สรพงษ์ ภวสุปรีย์ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ และผู้บริหาร คณาจารย์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ เข้าร่วม ณ ห้องประชุมราชพฤกษ์ ชั้น 3 อาคารสำนักงานคณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มทร.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี
.
ความร่วมมือครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อวิจัยทั้งทางด้านหม้อแปลงไฟฟ้าแรงดันสูง ที่ผลิตได้ใน ถิรไทย ให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล (IEC, ANSI, IEEE, BS, VDE, TIS) และสามารถนำไปประยุกต์ใช้งานในระบบไฟฟ้ากำลัง ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องได้ อาทิ การไฟฟ้าฝ่ายผลิต การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และการไฟฟ้านครหลวง หาแนวทางในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อที่จะปรับปรุงคุณภาพของอุปกรณ์ทางด้านหม้อแปลงไฟฟ้าแรงดันสูงให้สามารถใช้งานได้อย่างเหมาะสมและยั่งยืนในการใช้งานจริง วิจัยด้านโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ (Smart Grid), ระบบกักเก็บพลังงาน (Energy Storage System) รวมทั้ง hardware และ software ของส่วนประกอบอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดที่จะนำไปสู่เป้าหมายดังกล่าว วิจัยด้านการพัฒนาฉนวนน้ำมันหม้อแปลงไฟฟ้าฐานชีวภาพ (Biobased Transformer Oil Insulation) เพื่อส่งเสริมความยั่งยืน ความปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ ลดการพึ่งพาพลังงานจากฟอสซิล เพิ่มประสิทธิภาพของระบบไฟฟ้า และสนับสนุนเป้าหมายของประเทศและองค์กร พลังงานที่ต้องการ ลดคาร์บอนฟุตพริ้น และร่วมกันพัฒนาด้านทรัพยากรบุคคล ผ่านการทำกิจกรรมการทดสอบและการปฏิบัติงานจริง (Field Test) สำหรับการทดสอบอุปกรณ์ทางด้านหม้อแปลงไฟฟ้าแรงดันสูง อุปกรณ์ในระบบกักเก็บพลังงานและโครงข่าย ไฟฟ้าอัจฉริยะ ตามมาตรฐานกำหนดที่เกี่ยวข้อง โดยทั้งสองฝ่ายจะร่วมกันในการผลักดันหลักสูตรและผลลัพธ์การเรียนรู้ ผ่านงานวิจัยและความร่วมมือทางวิชาการ เกี่ยวกับมาตรฐานการทดสอบทางด้านหม้อแปลงไฟฟ้า แรงดันสูง ระบบกักเก็บพลังงานรวมทั้งระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ จัดหาเครื่องมือที่จำเป็นในการทดสอบ จัดทำเนื้อหาสาระในแต่ละหลักสูตรให้เหมาะสม การร่วมประเมินผลสัมฤทธิ์ ของการทดสอบและอบรมร่วมกัน ผ่านการติดตั้งและทดสอบในห้องปฏิบัติการจริง เพื่อที่จะให้ผู้เข้าอบรมมีความรู้และความเข้าใจ และสามารถนำความรู้ที่ได้จากการอบรมไปใช้ให้เกิดความชำนาญในวิชาชีพของแต่ละหน่วยงานต่อไป
…………………………………………………………………………………………..
ความร่วมมือทางวิชาการนี้มีความเกี่ยวข้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ได้แก่ SDG 7: พลังงานสะอาดที่เข้าถึงได้ (Affordable and Clean Energy) และ SDG 9: อุตสาหกรรม นวัตกรรม และโครงสร้างพื้นฐาน (Industry, Innovation, and Infrastructure)
.
รายงานโดย อาทิตยา ปักกะทานัง