ประมาณ 4-5 ปี จะมีการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอาากศ แต่ก็เป็นช่วงสั้น ๆ ที่เราคาดหวัง ในเดือนมกราคม จะเป็นช่วงหน้าหนาว แต่ก็อาจจะยาก แต่สิ่งที่เราให้ความสำคัญ คือ ภาวะโลกร้อน การปล่อย Co2 ซึ่งจริงๆ แล้ว ประเทศไทย ยังเป็นประเทศในกลุ่มเกษตรกรรม ในลักษณะที่เราทำลักษณะเกษตรดั้งเดิม คือ การเผาซังข้าว วัสดุทำการเกษตร เราอาจจะกำจัดไม่ถูกทิศถูกทาง ก็มีค่าเสียเวลาในการกำจัด ทำให้รัฐบาลมีนโยบาย เกี่ยวกับโรงไฟฟ้าชุมชน คือให้ชุมชนมีรายได้ จากการนำวัสดุทางการเกษตรมาสร้างเป็นรายได้
ในเฟสที่หนึ่ง ให้ประชาชนเก็บวัสดุทางการเกษตร เกษตรแปลงใหญ่ มารวมกันเป็นวิสาหกิจชุมชน นำมาไว้ที่เดียว แล้วขายให้กับโรงไฟฟ้าชุมชน ในพื้นที่ของตัวเองเพื่อนำมาผลิตเป็นกระแสไฟฟ้า อันนี้จะเป็นสิ่งหนึ่งที่จะช่วยให้เกษตรกรมีรายได้ที่เพิ่มขึ้น
แต่ปัญหาในตอนนี้ นักลงทุน กังวลเกี่ยวกับปริมาณวัตถุดิบที่จะนำมาใช้ในกระบวนการผลิตกระแสไฟฟ้า ดังนั้น ทางรัฐบาล จึงได้เปิดโอกาสให้นักลงทุนดำเนินการด้วยระบบไฮบริด เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต
ดังนั้น เกษตรแปลงใหญ่ จึงมีบทบาทต่อโรงไฟฟ้าในอนาคตในมุมของการเป็นวัตถุดิบเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า
การสูบน้ำ รัฐบาลพยายามให้ประชาชนหันมาใช้ระบบการนำนวัตกรรมการสูบน้ำด้วยระบบไฮบริด โดยจะมีโครงการออกมาภายในปีหน้า จะทำให้ประชาชนได้รับปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น ติดตามรายละเอียดได้ในรายการ ENERGY SAVING
ดำเนินรายการโดย ปิยะพงษ์ เคนทวาย และผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วิรชัย โรยนรินทร์ นายกสมาคมพลังงานทดแทนสู่ชุมชนแห่งประเทศไทย และอาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
(ออกอากาศวันอาทิตย์ที่ 29 พฤศจิกายน 2562)
ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี FM 89.5 Mhz
