English Around You l Trip, Travel, Tour, Journey 4 คำภาษาอังกฤษที่เห็นปุ๊บจะนึกถึงเรื่องท่องเที่ยวในทันใด

English Around You l Trip, Travel, Tour, Journey 4 คำภาษาอังกฤษที่เห็นปุ๊บจะนึกถึงเรื่องท่องเที่ยวในทันใด
– Idiom/Phrase: สำนวนภาษาอังกฤษจากคำว่า TURN

.
โดย อ.ชนฎนาถ จินศรี
และ อ.พุทธนาถ สวัสดิ์โยธิน
.
ออกอากาศ 5 กรกฎาคม 2566
ติดตามรับฟังได้ทาง #RmuttRadio #Englisharoundyou #ภาษาอังกฤษ #สนทนาภาษาอังกฤษ #วิทยุราชมงคลธัญบุรี #แกรมม่า #สำนวนอังกฤษ
————————————————————————————————————–
Trip, Travel, Tour, Journey 4 คำภาษาอังกฤษที่เห็นปุ๊บจะนึกถึงเรื่องท่องเที่ยวในทันใด แต่ที่จริงแล้วไม่ใช่ทั้งหมด และทั้ง

4 คำนี้มีความแตกต่างทั้งหน้าที่และการใช้ ดังนี้

Trip (n.)
Trip เป็นคำนามนับได้ หมายถึง การเดินทาง ซึ่งเป็นการเดินทางไปยังสถานที่หนึ่งในระยะเวลาสั้น ๆ แล้วก็กลับ
และยังใช้ประสมกับคำอื่นได้ เช่น day trip หมายถึง เดินทางวันเดียวไปกลับ และ business trip หมายถึง
เดินทางไปทำธุรกิจหรือทำงาน ด้วย โดย trip จะใช้กับคำกริยา take และ go on (take a trip / go on a trip) เช่น
We’re going on a trip to Okinawa next month to relax.
(พวกเราจะเดินทางไปโอกินาว่าเดือนหน้าเพื่อพักผ่อน)
My mom took a five-day trip to Rayong.
(แม่ของฉันเดินทางไประยอง 5 วัน)

When are you going on your business trip to Paris?
(คุณจะเดินทางไปทำธุรกิจที่ปารีสเมื่อไหร่)
อ่านเนื้อหาเรื่อง trip เพิ่มเติมได้ที่ >> วลีภาษาอังกฤษไว้พูดเรื่องเที่ยวอย่างเป็นธรรมชาติ

Travel (v./n.)
Travel (v.) เป็นคำกริยา หมายถึง เดินทาง หรือเดินทางจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง เช่น
I’m going to travel abroad this summer.

(ฉันจะเดินทางไปต่างประเทศในฤดูร้อนนี้)

Cherry really likes to travel.
(เชอร์รี่ชอบเดินทางมาก ๆ)
Travel (n.) เป็นคำนาม หมายถึง การเดินทางทั่วไป โดยปกติใช้ในรูปพหูพจน์ (โดยเฉพาะเวลาเดินทางไปที่ไกล ๆ
เป็นเวลานาน ๆ) เช่น
Travel in that country is dangerous.
(การเดินทางในเมืองนั้นอันตราย)

On my travels, I met many people.
(ในการเดินทางของฉัน ฉันได้เจอผู้คนมากมาย)

Tour (v./n.)
Tour (v.) เป็นคำกริยา หมายถึง เดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ เช่น
BNK48 are touring to promote their new single in Thailand now.
(BNK48 กำลังเดินทางโปรโมทซิงเกิ้ลใหม่ของพวกเธอในประเทศไทย : สื่อถึงว่ากำลังเดินทางไปตามท้องถิ่นต่าง ๆ ของไทย)
Tour (n.) เป็นคำนาม หมายถึง การเดินทางเที่ยวชมสถานที่ต่าง ๆ ที่เราไปศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับสถานที่นั้น โดยมีผู้นำทัวร์
และยังใช้พูดถึงการท่องเที่ยวที่มีผู้จัดไว้ให้เรียบร้อยแล้ว เช่น
I went on a chocolate factory tour yesterday.
(เมื่อวานฉันไปทัวร์โรงงานช็อกโกแลต)
 
I will go to Ayutthaya in a bus tour tomorrow.
(พรุ่งนี้ฉันจะไปอยุธยาด้วยบัสทัวร์)

Journey (n.)
Journey เป็นคำนามนับได้ หมายถึง ช่วงระยะเวลาการเดินทาง โดยปกติจะเป็นระยะทางไกล ๆ เช่น

I want to go on a journey around Asia.
(ฉันอยากเดินทางไปรอบเอเชีย)

How was your journey?
(การเดินทางของคุณเป็นอย่างไรบ้าง)
 

เดี๋ยวเราจะให้ท่านผู้ฟังพักฟังเพลงเพราะ ๆ ต่อ จากทางสถานี แล้วกลับมาพบกับพวกเราในช่วงสุดท้ายของรายการ English
around You ติดตามฟังกันให้ได้นะคะ
.
กลับมาพบกันต่อในช่วงที่ 2 ของรายการ English around You อีกแล้วนะคะ ทางคลื่น FM 89.5 MHz สถานีวิทยุมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
คลื่นเทคโนโลยีเพื่อคุณภาพชีวิตค่ะ

Idiom/Phrase: สำนวนภาษาอังกฤษจากคำว่า TURN
Turn away = เบือนหน้า
คำว่า away ด้วยตัวของมันเองมีความหมายว่า ในทิศทางอื่นหรือจากไป เมื่อนำมารวมกับคำว่า turn ที่แปลว่า หัน จึงประกอบกันเป็น หันหนี หรือ เบือนหน้า นั่นเอง
ตัวอย่างประโยค : I turned away when I meet him. (ฉันหันหน้าหนีเมื่อเจอเขา)

Turn down = ปฏิเสธ / ลด
เราสามารถใช้คำว่า turn down ได้เมื่อต้องการปฏิเสธข้อเสนอหรือคำขอต่าง ๆ
ตัวอย่างประโยค : I offered him a job, but he turned it down. (ฉันเสนองานให้เขา แต่เขากลับปฎิเสธ)

นอกจากคำว่า turn down จะมีความหมายว่า ปฏิเสธ แล้ว ยังสามารถใช้แทนคำว่า หรี่หรือลด ได้ด้วย ซึ่งมักใช้กับการลดเสียงหรืออุณหภูมิ
ตัวอย่างประโยค : I turned the sound down. (ฉันลดระดับเสียงลง)

Turn in = เข้านอน / ส่งงาน
ตามปกติ เราอาจจะคุ้นเคยกับการใช้คำว่า go to bed หรือ go to sleep เวลาที่พูดถึงการเข้านอน แต่เราก็สามารถใช้คำว่า turn in ได้ด้วยเช่นกัน
ตัวอย่างประโยค : I turned in at 9 PM last night. (เมื่อคืน ฉันเข้านอนตอนสามทุ่ม)

นอกจากความหมายที่แปลว่า เข้านอน แล้ว คำว่า turn in ยังสามารถใช้กับการส่งงานหรือส่งการบ้านได้อีกด้วย
ตัวอย่างประโยค : I have to turn my homework in before lunch. (ฉันต้องส่งการบ้านก่อนพักเที่ยง)

Turn on = เปิด VS Turn off = ปิด
สองคำนี้อาจจะเป็นคำที่หลาย ๆ คนค่อนข้างคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว คำว่า turn on แปลว่า เปิด ส่วนคำว่า turn off แปลว่า ปิด ทั้งสองคำนี้มักถูกใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น โทรทัศน์หรือสวิตซ์ไฟ
ตัวอย่างประโยค : Could you please turn on the television for me? (ช่วยเปิดโทรทัศน์ให้หน่อยได้ไหมคะ?)

Turn out = เฉลย เผยให้เห็น
คำว่า turn out มักใช้กับการกล่าวถึงบทสรุปของสถานการณ์ ว่าสุดท้ายผลออกมาเป็นอย่างไรหรือแสดงให้เห็นว่าอย่างไร
ตัวอย่างประโยค : It turned out well in the end. (สุดท้ายมันก็ออกมาดี)

แต่ถ้าเราเติมสรรพนามเข้าไปตรงกลางระหว่างคำว่า turn กับคำว่า out ในลักษณะนี้ “Turn …(someone)… out.” จะเปลี่ยนความหมายไปเลย กลายเป็น ไล่ออก แทนค่ะ
ตัวอย่างประโยค : His boss has just turned him out. (เจ้านายของเขาเพิ่งจะไล่เขาออก)

Turn over = พลิก / มอบ
เมื่อใช้คำว่า turn over ในความหมายของ พลิก สามารถใช้ได้กับหน้าหนังสือ กระดาษ หรือวัตถุสิ่งของต่าง ๆ ในอีกความหมายหนึ่งคือ มอบ
ตัวอย่างประโยค : My parents decided to turn over their business to me. (พ่อแม่ของฉันตัดสินใจที่จะมอบธุรกิจให้กับฉัน)
เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป

ขอขอบคุณข้อมูลดีดี https://www.trueplookpanya.com