ENGLISH_AROUND_YOU l คำศัพท์ภาษาอังกฤษที่ใช้คู่กันกับคำบุพบท

https://www.facebook.com/RMUTTRadio/videos/517593365609959/
#ENGLISH_AROUND_YOU l คำศัพท์ภาษาอังกฤษที่ใช้คู่กันกับคำบุพบท
.
โดย อ.ชนฎนาถ จินศรี
และ อ.พุทธนาถ สวัสดิ์โยธิน
.
ออกอากาศ ออกอากาศ [ 8 กรกฎาคม 2563 ] ติดตามรับฟังได้ทาง #RmuttRadio #Englisharoundyou #ภาษาอังกฤษ #สนทนาภาษาอังกฤษ #วิทยุราชมงคลธัญบุรี #แกรมม่า #สำนวนอังกฤษ

คำศัพท์ภาษาอังกฤษที่ใช้คู่กันกับคำบุพบท

สำหรับบางคนการใช้คำศัพท์อาจจะไม่ใช่เรื่องยาก แต่ที่ยากกว่าก็คือการใช้คำบุพบทภาษาอังกฤษใช่ไหมล่ะคะ เพราะเราไม่ใช่เจ้าของภาษา เราจึงไม่ได้ฝึกใช้มาตั้งแต่ต้นว่าคำไหนควรจะคู่กับคำบุพบทแบบไหน เพื่อที่จะได้สื่อสารให้ถูกต้อง ผู้ฟังก็จะได้ไม่สับสน ความหมายก็จะได้ไม่เปลี่ยนไปด้วยค่ะ และนี่ก็คือ 20 คำพื้นฐานที่มาคู่กับคำบุพบทภาษาอังกฤษของมันค่ะ
Apologize for
คำที่แปลว่าขอโทษนี้ต้องตามด้วยบุพบท for ก่อนแล้วค่อยเติมว่าจะขอโทษ “เรื่องอะไร” เช่น I apologize for my mistake. (ผมขอโทษเรื่องความผิดพลาดของผมด้วย) แต่ถ้าหากไปเลือกใช้ to จะต้องตามด้วยกรรมที่เราจะขอโทษ เช่น I apologize to you (ผมขออภัยคุณด้วย)
Ask for
คำว่าถามนี้จะต้องคู่กับ for เสมอค่ะ เพราะเวลาเราถามเราต้องถามหรือขอ “อะไร” เท่านั้น เช่น May I ask for information. (ขอถามข้อมูลหน่อยได้ไหมคะ) แบบนี้เป็นต้นค่ะ คำนี้ใช้ to ไม่ได้นะคะ ถ้าจะมีกรรมเป็นคนให้เติมได้เลย เช่น I ask Susan where is she from. (ฉันถามซูซานว่าเธอมาจากไหน)
Care for
จำเอาไว้เลยค่ะว่าถ้าเราแคร์ใครหรือแคร์อะไร เราจะแคร์ “เพื่อ” คนหรือสิ่งของสิ่งนั้น ดังนั้นเวลาที่ใช้คำว่า Care ให้ตามด้วยบุพบท for นะคะ อย่างเช่น I care for you (ฉันเป็นห่วงเธอ) แต่ถ้าหากใช้ to จะต้องตามด้วยกริยาค่ะ เช่น Do you care to take the test? (สนใจจะทำแบบทดสอบไหม) ซึ่งความหมายจะไปคนละทางกับ Care for เลยล่ะค่ะ
Protect (someone) from
ท่องเอาไว้เลยค่ะว่า เวลาจะปกป้องใครสักคนเราต้องปกป้องเขา “จาก” สิ่งใด ดังนั้นเมื่อใช้คำว่า Protect เมื่อตามด้วยกรรม (คน/สิ่งของที่ถูกปกป้อง) แล้ว ต้องต่อด้วยบุพบท from ค่ะ แล้วจึงตามด้วยสิ่งที่เราต้องการปกป้องคน/สิ่งของนั้นจากมัน ยกตัวอย่างเช่น I will protect you from harm. (ฉันจะปกป้องเธอจากอันตราย) ค่ะ
Suffer from
คำว่า Suffer แปลว่าทุกข์ทรมานค่ะ เมื่อเราจะบอกว่าเราทุกข์ทรมาน เราต้องบอกว่า “จาก” อะไรค่ะ ดังนั้นต้องใช้คู่กับบุพบท from นะคะ ยกตัวอย่างเช่น His father has suffered from severe illness for years. (พ่อของเชาทุกข์ทรมานจากโรคร้ายมาหลายปีแล้ว)
Believe in
เวลา “เชื่อ” หรือ Believe เราจะต้องต่อด้วยบุพบทว่า “ใน” หรือ In ค่ะ คำนี้ไม่น่าสับสนเพราะในภาษาไทยเองก็มีรูปแบบการใช้คำที่เหมือนกับภาษาอังกฤษ ดังนั้นหากจากสร้างประโยค ฉันเชื่อในการศึกษา ก็เขียนเป็นภาษาอังกฤษได้ว่า I believe in education. ได้เลยค่ะ
Save (someone) from
เช่นเดียวกับคำว่า Protect ค่ะ คำว่า Save ที่แปลว่าพิทักษ์, รักษานี้ก็ต้องใช้คู่กับบุพบท From เช่นเดียวกัน และมีรูปแบบการใช้แบบเดียวกันเลย นั่นก็คือ “save ใคร from อะไร” ค่ะ ยกตัวอย่างเช่น I will save you from a fall. (ฉันจะปกป้อง/รักษาไม่ให้เธอตกลงไป) นั่นเอง
แต่คำนี้ถ้าใช้กับ บุพบท for ความหมายจะต่างออกไปนะคะ เช่น Save the best for last (เก็บสิ่งที่ดีที่สุดเอาไว้สุดท้าย) คำว่า Save จะไม่ได้แปลเหมือน Protect แต่จะแปลเหมือนคำว่า Keep ค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลดีดีจาก https://www.dailyenglish.in.th/20-verbs-with-prepositions/

เดี๋ยวเราจะให้ท่านผู้ฟังพักฟังเพลงเพราะ ๆ ต่อ จากทางสถานี แล้วกลับมาพบกับพวกเราในช่วงสุดท้ายของรายการ English around You ติดตามฟังกันให้ได้นะคะ ว่าเราจะนำสำนวนอะไรมาฝากกัน อย่าเพิ่งเปลี่ยนช่องไปไหนนะคะ

กลับมาพบกันต่อในช่วงที่ 2 ของรายการ English around You อีกแล้วนะคะ ทางคลื่น FM 89.5 MHz สถานีวิทยุมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
คลื่นเทคโนโลยีเพื่อคุณภาพชีวิตค่ะ

คำศัพท์ภาษาอังกฤษที่ใช้คู่กันกับคำบุพบท
Approve of
คำว่า Approve แปลว่า “เห็นชอบ” หรือ “รับรอง” ค่ะ ส่วนใหญ่แล้วจะใช้คำบุพบท of อย่างเดียวเลย นั่นคือเรารับรองหรือเห็นชอบกับเรื่องอะไร ยกตัวอย่างเช่น The CEO approves of this maga-project. (ซีอีโอเห็นชอบกับโครงการใหญ่นี้)
Smell of
เวลาจะอธิบายว่าได้กลิ่นของอะไร ให้ตามด้วยบุพบท of ค่ะ เช่น smell of rain (กลิ่นฝน) smell of flowers (กลิ่นดอกไม้) smell of perfume (กลิ่นน้ำหอม)
Concentrate on
คำว่า concentrate แปลว่าจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งค่ะ คำนี้หลายคนมักจะใช้บุพบทผิด เพราะภาษาไทยเราจะพูดว่า “จดจ่อกับ…” แต่สำหรับฝรั่งแล้วต้อง “จดจ่อบน…” ค่ะ ยกตัวอย่างเช่น Steve concentrates very much on the lecture. (สตีฟจดจ่อกับการเรียนมาก ๆ)
Agree on/with
คำว่า Agree ที่แปลว่าเห็นด้วยนี้ใช้ได้สองแบบค่ะ ถ้า Agree on ให้ตามด้วยเรื่องที่เราเห็นด้วย เช่น I agree on the legal abortion policy. (ฉันเห็นด้วยกับนโยบายระงับการตั้งครรภ์แบบถูกกฎหมาย) แต่ถ้า Agree with ส่วนใหญ่จะตามด้วยคนที่เราเห็นด้วยกับเขา เช่น I agree with him. (ฉันเห็นด้วยกับเขานะ)
Introduce (someone) to
จะแนะนำใครให้ใครรู้จัก ต้องตามด้วยบุพบท to ค่ะ ยกตัวอย่างประโยคเช่น May I introduce you to Mister Smith? (ขอแนะนำให้รู้จักคุณสมิธ)
Compatible with
คำว่า compatible แปลว่าเข้ากันได้ค่ะ หลักการใช้คำบุพบทไม่ต่างจากภาษาไทยเลย คือคำกว่า “กับ” หรือ with นี่เอง แต่คำ ๆ นี้เป็น adjective ดังนั้นต้องตาม verb to be ตลอดนะคะ ยกตัวอย่างเช่น This wireless mouse is compatible with my laptop. (เม้าส์ไร้สายอันนี้เข้ากันได้กับโน๊ตบุ๊คของฉัน)
Depend on
คำว่า depend แปลว่า “ขึ้นอยู่…” ค่ะ สำหรับคนไทยเราจะพูดว่า “ขึ้นอยู่กับ…” ใช่ไหมคะ แต่สำหรับฝรั่งแล้วต้อง “ขึ้นอยู่บน…” ค่ะ ดังนั้นถ้าอยากจะบอกว่า “ชีวิตของฉันขึ้นอยู่กับคุณ” ต้องใช้บุพบท on ต่อท้ายคำนี้นะคะ เช่น My life depends on you. นั่นเอง
Spend on
คำว่า Spend แปลว่า “ใช้” แต่จะใช้กับการใช้ “เวลา” และ “เงิน” เท่านั้นนะคะ คำบุพบทที่ตามคำกริยานี้ก็คือคำว่า on ค่ะ แม้คนไทยจะชินกับการพูดว่า “ใช้เวลา/เงินไปกับ…” แต่สำหรับฝรั่งต้อง “ใช้ไปบน…” ค่ะ ยกตัวอย่างเช่น “I spend my time to much on video game.” (ผมใช้เวลากับวิดีโอเกมมากเกินไป)

Participate in
คำว่า Participate แปลว่า “มีส่วนร่วม” ค่ะ ซึ่งก็ตามด้วยคำบุพบทแบบที่เราใช้กันในภาษาไทยเลย นั่นคือก็คือว่า “ใน” หรือ in นั่นเอง ยกตัวอย่างเช่น Marie paticipates in seminar today. (มารีเข้าร่วมการสัมมนาวันนี้)
Punish for
คำว่า Punish แปลว่าลงโทษค่ะ ซึ่งต้องตามด้วยคำบุพบท for เสมอ เนื่องจากมันจะเป็นตัวชี้ว่ากรรมของประโยคถูกลงโทษเนื่องด้วยเรื่องอะไรนั่นเอง ยกตัวอย่างเช่น Katniss is punished for being a rebel. (แคตนิสถูกลงโทษเพราะเป็นผู้ก่อการต่อต้าน)